นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยแนวคิดใหม่ที่มุ่งเน้นการยกระดับบทบาทของท่าอากาศยานให้เป็นมากกว่าพื้นที่เพื่อการเดินทาง ภายใต้โครงการ “สนามบินมีชีวิต” (Live Airport) โดยท่าอากาศยานพิษณุโลกได้รับเลือกให้เป็นท่าอากาศยานนำร่องในการพัฒนานี้ แนวคิดนี้มุ่งให้ท่าอากาศยานกลายเป็นประตูสู่จังหวัดและเป็นจุดหมายที่สร้างคุณค่าและประสบการณ์เชิงวัฒนธรรมท้องถิ่น นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจของชุมชนรอบข้าง
“สนามบินมีชีวิต” จุดเริ่มต้นของการพัฒนาชุมชน
นางมนพร ได้ชี้แจงว่า โครงการ “สนามบินมีชีวิต” มีเป้าหมายหลักในการเปลี่ยนท่าอากาศยานให้กลายเป็นศูนย์กลางที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยจะมีการจัดกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของชุมชน อาทิ การจัดแสดงศิลปะพื้นบ้าน การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน และ Workshop การทำอาหารประจำถิ่น กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่น่าสนใจให้กับผู้มาเยือน และยังสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการท้องถิ่น
การเปิดโอกาสให้ผู้ค้าท้องถิ่นนำสินค้ามาจำหน่ายในท่าอากาศยานเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยเพิ่มรายได้และสร้างอาชีพให้กับชุมชน โดยนางมนพรได้มอบหมายให้กรมท่าอากาศยาน (ทย.) ดำเนินการร่วมกับชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดหาพื้นที่และจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับเทศกาลต่าง ๆ ตลอดทั้งปี
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว
นอกเหนือจากกิจกรรมเชิงวัฒนธรรม กระทรวงคมนาคมยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของท่าอากาศยานให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยร่วมมือกับสำนักงานขนส่งจังหวัดพิษณุโลกในการจัดเส้นทางการคมนาคมที่เชื่อมต่อกับท่าอากาศยาน รวมถึงการจัดรถขนส่งสาธารณะเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวให้เพียงพอและสอดคล้องกับตารางการบิน
โครงการนี้ยังผสานความร่วมมือกับโครงการ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” ที่รัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด รวมถึงพิษณุโลกด้วย ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นและสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการท้องถิ่นอย่างมีนัยสำคัญ
การปรับปรุงบรรยากาศภายในท่าอากาศยาน เพิ่มความใกล้ชิดกับธรรมชาติ
นายดนัย เรืองสอน อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กล่าวเสริมว่า ทย. ได้เตรียมแผนในการปรับปรุงบรรยากาศภายในท่าอากาศยาน โดยมีการเพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อสร้างความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ นอกจากนี้ยังได้นำเทคโนโลยี Natural Sounds Effect เข้ามาใช้เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและน่าประทับใจยิ่งขึ้นให้กับผู้โดยสาร
ท่าอากาศยานพิษณุโลกยังมีการจัดทำจุดเช็กอินที่มีลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากบัวกระด้งยักษ์ สัญลักษณ์ของจังหวัด ให้ผู้โดยสารได้ถ่ายภาพและสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นตั้งแต่ก้าวแรกที่มาถึง
ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และชุมชน
หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญของโครงการนี้คือการบูรณาการความร่วมมือระหว่างท่าอากาศยาน หน่วยงานท้องถิ่น และภาคเอกชน โดยนางมนพรได้สั่งการให้ ทย. แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาท่าอากาศยาน ซึ่งมีผู้แทนจากทุกภาคส่วน เพื่อรับผิดชอบการดำเนินโครงการและให้คำแนะนำในการพัฒนาให้ตรงกับความต้องการของชุมชน
การประสานความร่วมมือที่แข็งแกร่งนี้จะช่วยให้ “สนามบินมีชีวิต” กลายเป็นตัวอย่างของการพัฒนาท่าอากาศยานที่ยั่งยืน โดยไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ด้านการเดินทาง แต่ยังเป็นแหล่งสร้างสรรค์คุณค่าและความภาคภูมิใจให้กับชุมชน
สรุป โครงการ “สนามบินมีชีวิต” (Live Airport) ของนางมนพร เจริญศรี ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาท่าอากาศยานให้กลายเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงวัฒนธรรมและเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยท่าอากาศยานพิษณุโลกที่ได้รับเลือกให้เป็นพื้นที่นำร่องในการดำเนินการ เป็นสัญลักษณ์ของการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งในแง่ของการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในท้องถิ่นและการสร้างความประทับใจให้กับผู้โดยสาร
“สนามบินมีชีวิต” จะไม่เพียงเป็นแค่ท่าอากาศยาน แต่จะเป็นศูนย์กลางที่ส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้ และสนับสนุนเศรษฐกิจในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน