คณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จัดสรรกรอบวงเงินรวม 55,000 ล้านบาท จัดทำแพ็กเกจสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ สนับสนุนคนไทยให้ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมากขึ้น ประกอบด้วย (1) มาตรการสินเชื่อซื้อ - สร้าง กรอบวงเงิน 50,000 ล้านบาท และ (2) มาตรการสินเชื่อซ่อม - แต่ง กรอบวงเงิน 5,000 ล้านบาท ผู้ที่สนใจเข้าร่วมมาตรการสินเชื่อซื้อ - สร้าง สามารถรับรหัสผ่านMobile Application : GHB ALL GEN ตั้งแต่วันนี้ และยื่นขอสินเชื่อที่สาขาธนาคารทั่วประเทศได้ตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้ ธอส. จัดสรรกรอบวงเงินรวม 55,000 ล้านบาท ในการาจัดทำแพ็คเกจสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อขยายโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง ได้เข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยต่ำ และได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล และกระทรวงการคลัง ในการให้หน่วยงานภาครัฐ เข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้น โดยสินเชื่อดังกล่าว ประกอบด้วย
(1)มาตรการสินเชื่อซื้อ - สร้าง : กรอบวงเงิน 50,000 ล้านบาท สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อที่ดินพร้อมอาคารหรือห้องชุด ปลูกสร้างอาคารหรือซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร และเพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย ในระดับราคาซื้อขายหรือปลูกสร้างไม่เกิน 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปีแรก เพียง 3.00% ต่อปี, ปีที่ 6 - 7 เท่ากับ MRR-2% ต่อปี (4.545% ต่อปี), ปีที่ 8 - 9 เท่ากับ MRR-1.50% ต่อปี (5.045% ต่อปี) และปีที่ 10 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.75% ต่อปี ลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยสำหรับซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย เท่ากับ MRR (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ปัจจุบันอยู่ที่ 6.545% ต่อปี) ระยะเวลาการกู้นานสูงสุด 40 ปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียง 4,100 บาท เท่านั้น พิเศษ! ฟรีค่าประเมินราคาหลักประกัน 1,900 - 2,300 บาท โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมมาตรการสินเชื่อซื้อ - สร้าง สามารถรับรหัสได้ตั้งแต่วันนี้ (12 พฤศจิกายน 2567) เป็นต้นไป ผ่าน Mobile Application : GHB ALL GEN พร้อมสมัคร Line GHB Buddy เพื่อรับรหัส 6 หลัก ก่อนนำมาประกอบการยื่นกู้ตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2568 หรือก่อนกำหนดระยะเวลาดังกล่าวหาก ธอส. ให้สินเชื่อเต็มกรอบวงเงินโครงการแล้ว
(2) มาตรการสินเชื่อซ่อม - แต่ง : กรอบวงเงิน 5,000 ล้านบาท สำหรับลูกค้าปัจจุบันของ ธอส. ที่ต้องการกู้เพิ่มเพื่อต่อเติม ซ่อมแซม หรือซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย มีการทำนิติกรรมสัญญาและผ่อนชำระเงินกู้กับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี วงเงินกู้เดิมภายใต้หลักประกันสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท ประวัติการผ่อนชำระสม่ำเสมอทุกเดือนไม่น้อยกว่า 1 ปี วงเงินให้กู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 100,000 บาท ระยะเวลาการกู้สูงสุดนาน 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีเพียง 1.00% ต่อปี กรณีกู้ 1 แสนบาท ผ่อนชำระเงินงวดเพียง 2,900 บาท เท่านั้น พิเศษ! ฟรีค่าประเมินราคาหลักประกัน 1,900 บาท โดยไม่ต้องจดทะเบียนการจำนองเพิ่มที่สำนักงานที่ดิน ผู้ที่สนใจเข้าร่วมมาตรการสินเชื่อซ่อม - แต่ง สามารถยื่นคำขอกู้ได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป และกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดโครงการเมื่อธอส. ให้สินเชื่อเต็มกรอบวงเงินโครงการแล้ว
“ธอส. จัดทำสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยและปานกลางให้ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการสินเชื่อบ้าน Happy Home ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าที่ยื่นขอสินเชื่อเต็มกรอบวงเงินในเวลาอันสั้น รวมไปถึงสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งการที่ ครม. เห็นชอบให้ ธอส. จัดทำมาตรการสินเชื่อซื้อ - สร้าง และมาตรการสินเชื่อซ่อม - แต่ง ในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำว่า ธอส. เป็นสถาบันการเงินของรัฐที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ รวมถึงมีภาระการผ่อนชำระอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งในครั้งนี้ ธอส. ได้ปล่อยสินเชื่อในเงื่อนไขผ่อนปรนให้กับกลุ่มผู้มีรายได้ต่อเดือนไม่เกิน 25,000 บาท จะได้รับการพิจารณาเกณฑ์รายได้ ไม่เกิน 1 ใน 2 ของรายได้สุทธิต่อเดือน ซึ่งจะทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้ ได้รับวงเงินสินเชื่อเพิ่มขึ้น มีโอกาสในการมีที่อยู่อาศัยและช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตได้มากขึ้น” นายกมลภพ กล่าวในที่สุด