ทีทีบี เผยภาพรวมเศรษฐกิจปี 67 ยังมีความท้าทายทั้งตลาดที่อยู่อาศัยและรถยนต์ ขณะที่ความต้องการยังมีต่อเนื่อง ด้านตลาดรถยนต์มือสองยังแข่งเดือด พฤติกรรมผู้ซื้อเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล ระบุหลังเปิดบริการแพลตฟอร์ม Roddonjai 1 ปี ประสบความสำเร็จเกินคาด สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ซื้อ-ผู้ขาย ตอบโจทย์ครบวงจร คาดสิ้นปี 67 ยอดขายแตะ 40,000 คัน รถ D-Segment และกลุ่ม Van ขายดีสุด พร้อมเดินหน้ารุกตลาด “รถบ้าน” ด้วยคอนเซ็ปต์ Sell Smooth, Good Price หรือ ขายง่าย ได้ราคา พร้อมเปิดตัวโฆษณาชุดใหม่ ทั้งดึง“มาริโอ้ เมาเร่อ” เป็นพรีเซนเตอร์ต่อเนื่องปีที่ 2
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี(TTB) เปิดเผยว่า ปี 2567 เป็นปีที่มีความท้าทาย เพราะที่อยู่อาศัย และรถยนต์ ต่างได้รับผลกระทบตามสภาวะเศรษฐกิจ แต่ความต้องการก็ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้จากแนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจของทีทีบี ที่มุ่งสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทย ช่วงที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าแบบครบวงจรให้กับกลุ่มลูกค้าคนมีรถ (Car Owners) สำหรับตลาดรถยนต์ธนาคารเล็งเห็นถึงความท้าทายที่เกิดขึ้นกับพันธมิตรผู้ขายรถยนต์มือสองที่มีการแข่งขันสูง และพฤติกรรมของผู้ซื้อเกิดการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลมากขึ้น ทีทีบีจึงต้องการช่วยพันธมิตรกลุ่มนี้ยกระดับความสามารถในการแข่งขัน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อรถ จึงนำจุดแข็งของธนาคารสร้างโมเดลธุรกิจและแพลตฟอร์ม Roddonjai เพื่อเชื่อมต่อผู้ซื้อและผู้ขายเข้าด้วยกัน ด้วยมาตรฐานที่โปร่งใสและเชื่อถือได้ สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดรถยนต์มือสอง และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับพันธมิตร ซึ่งในช่วง 1 ปีที่ผ่านมามีรถยนต์ที่ผ่านการตรวจคุณภาพแล้ว ประกาศขายบน Roddonjai.com กว่า 65,000 คัน มีผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม 1.9 ล้านคนต่อเดือน ส่งผลให้สามารถขายรถยนต์ได้ถึง 38,000 คัน และมีลูกค้ามาใช้สินเชื่อรถยนต์ ทีทีบีไดรฟ์ ของธนาคารไปแล้วกว่า 13,000 ล้านบาท ซึ่งความสำเร็จที่ได้รับจากความร่วมมือกับพันธมิตรดีลเลอร์รถยนต์มือสอง ไม่เพียงยกระดับมาตรฐานให้กับตลาด แต่ยังช่วยสร้างธุรกิจที่โปร่งใสและตรงไปตรงมาอย่างแท้จริง เพื่อการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน
โดยรถกลุ่มที่ขายดีที่สุดจะเป็น Mid-Size Car หรือ D-Segment รวมไปถึงรถกลุ่ม Van จะได้รับการตอบรับดีที่สุดเช่นกัน เพราะลูกค้ากลุ่มครอบครัวจะมีความต้องการสูง ขณะเดียวกันรถกลุ่ม ECO Car ก็มียอดขายที่ดีต่อเนื่องเช่นกัน และรถที่ขายดีส่วนใหญ่จะเป็นรถที่ใช้น้ำมันดีเซลและเบนซิน และยังสามารถสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าเป็นรถบ้านที่มีคุณภาพ ไม่หลอกลวง ด้วยการตรวจสอบทั้งสภาพรถยนต์และประวัติเจ้าของรถยนต์ โดยในส่วนของรถยนต์นั้น จะตรวจสอบใน 5 จุดหลัก โดยอันดับแรกที่ต้องตรวจสอบคือ ระดับน้ำท่วมตัวรถ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ ,โครงสร้าง,เครื่องยนต์,สภาพภายนอกรถยนต์ และ สภาพภายในรถยนต์ ซึ่งที่ผ่านมามีเจ้าของรถเพียง 5% ที่เกณฑ์ไม่ผ่านการพิจารณา ที่ส่วนใหญ่จะประสบปัญหาในเรื่องของโครงสร้างตัวรถยนต์ โดยคาดว่าถึงปลายปี 2567 จะสามารถทำยอดขายได้ถึง 40,000 คัน ส่วนในปี 2568 คาดว่าจะทำยอดขายได้มากกว่า 30,000 คัน จากแนวโน้มภาพรวมเศรษฐกิจปี 2568 ที่มีทิศทางฟื้นตัวดีขึ้น และจะเห็นแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ที่เติบโตดีขึ้น
“วันนี้ Roddonjai เข้าสู่ปีที่ 2 และพร้อมที่จะขยายตลาดไปยังกลุ่มผู้ขายอีกกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า “รถบ้าน” ซึ่งก็คือบุคคลทั่วไปที่มีความต้องการขายรถและประสบปัญหาในด้านการขายรถยนต์ด้วยตนเอง ซึ่งทีทีบีเชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพและจุดแข็งของธนาคาร จะสามารถช่วยสร้างประสบการณ์การซื้อ-ขายรถบ้านบน Roddonjai ให้ดียิ่งขึ้นได้ และมั่นใจว่าแพลตฟอร์ม Roddonjai ราคาจะไม่แตกต่างจากคู่แข่งซื้อขายรถยนต์มือสองมากนัก” นายปิติ กล่าว
ด้านนายชัชฤทธิ์ ตั้งเถกิงเกียรติ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าผลิตภัณฑ์สินเชื่อรถยนต์และทรานส์ฟอร์เมชัน ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า ในโอกาสที่ Roddonjai ก้าวเข้าสู่ปีที่ 2 จึงได้ต่อยอดความสำเร็จสู่การให้บริการแก่กลุ่มผู้ขาย “รถบ้าน” ซึ่งยังประสบปัญหาและอุปสรรคในการซื้อขายด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการถูกกดดันด้านราคา ช่องทางการขายที่จำกัด และการเข้าถึงสินเชื่อรถยนต์ที่ไม่สะดวก ซึ่งจากจำนวนผู้มีรถยนต์ในประเทศไทยกว่า 18 ล้านคัน และมีรถที่มีอายุใช้งานในระหว่าง 4-7 ปี ซึ่งมีโอกาสในการเปลี่ยนรถจำนวนเกือบ 11 ล้านคัน กลับมียอดจำหน่ายรถยนต์มือสองทั้งประเทศ 700,000 คัน ซึ่งหากทีทีบี สามารถสร้างบริการครบวงจร สร้างประสบการณ์การซื้อ-ขายรถบ้านบน Roddonjai ให้ดียิ่งขึ้นได้ จะช่วยเพิ่มการหมุนเวียนในตลาดรถยนต์มือสองมากยิ่งขึ้น และช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายศักยภาพของตลาดรถยนต์มือสองให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด
Roddonjai มีความตั้งใจในการสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นสำหรับกลุ่มผู้ขาย “รถบ้าน” ให้สามารถขายได้ง่ายและได้รับราคาที่ดี ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ขายและผู้ซื้อรถบ้านในยุคดิจิทัลอย่างครบถ้วน ด้วยคอนเซ็ปต์ Sell Smooth, Good Price หรือ ขายง่าย ได้ราคา โดยโซลูชันที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายรถบ้าน ด้วยบริการดังนี้
-ลงขายง่ายมีผู้ช่วย ด้วยบริการ Quick Selling Service มีผู้ช่วยลงขาย ถ่ายภาพ นัดหมายตรวจสภาพ และให้คำปรึกษาในทุกขั้นตอน
-บริการตรวจคุณภาพ รถทุกคันผ่านการตรวจคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญมาตรฐานสากลสูงสุด 274 จุด พร้อมรับรายงานการประเมินคุณภาพ การันตีคุณภาพรถให้
-โปรโมทฟรี ทุกคัน รถทุกคันที่ประกาศขายผ่านรถโดนใจ จะได้แพ็กเกจโฆษณาออนไลน์ ช่วยปิดการขายได้ไวขึ้น
-ขายได้ราคา ผู้ขายสามารถตั้งราคาขายได้ด้วยตนเอง โดยมีตัวช่วยในการตั้งราคาด้วย ttb bluebook ที่ได้รับมาตรฐานสากล ช่วยให้การตั้งราคาได้ง่ายขึ้น ตามราคาตลาด
-บริการสินเชื่อถึงที่ บริการจัดสินเชื่อให้ถึงที่ทั่วไทย ด้วยดีลดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติไว และโปรโมชันพิเศษจากทีทีบีไดรฟ์ อำนวยความสะดวกให้กับผู้ขายและผู้ซื้อ
สำหรับปีที่ 2 ของ Roddonjai ยังได้ “มาริโอ้ เมาเร่อ” เป็นพรีเซนเตอร์อย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาใหม่ในคอนเซ็ปต์ “อย่าให้ใครตีค่ารถคุณผิดๆ” ที่เปิดมุมมองใหม่ของการขายรถบ้าน และ Pain Point ต่าง ๆ ของผู้ขายรถบ้าน ที่มักถูกประเมินค่ารถต่ำกว่ามาตรฐานเมื่อลงขายเอง มุ่งเน้นให้ผู้ขายเห็นถึงความสำคัญของการตั้งราคาที่เป็นธรรม ผ่านบริการของ Roddonjai ที่ให้ผู้ขายสามารถตั้งราคาขายได้เองตามมาตรฐานตลาดด้วย ttb bluebook
โดย Roddonjai เปิดโปรโมชันพิเศษให้กับผู้ที่ประกาศขายรถบ้านตั้งแต่วันนี้ รับแพ็กเกจผู้ขาย 3 ต่อ เฉพาะ 1,000 ท่านแรกเท่านั้น
ต่อที่ 1 แพ็กเกจประกาศขายมูลค่า 10,000 บาท ประกอบด้วย ตรวจสภาพรถยนต์ บริการผู้ช่วยลงขาย บริการถ่ายภาพรถ แพ็กเกจโฆษณาออนไลน์
ต่อที่ 2 รับบัตรของขวัญโลตัสมูลค่า 1,000 บาท เมื่อแนะนำให้รถที่ประกาศขายจัดสินเชื่อกับทีทีบีไดรฟ์
ต่อที่ 3 รับบัตรของขวัญโลตัสมูลค่า 3,000 บาท เมื่อซื้อรถอีกครั้งที่ Roddonjai.com และจัดสินเชื่อกับทีทีบีไดรฟ์
สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อรถบ้านที่ Roddonjai พร้อมจัดสินเชื่อผ่านทีทีบีไดรฟ์ รับอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 2.59% ต่อปี และรับฟรี! เครื่องดูดฝุ่นไร้สายขนาดพกพามูลค่า 1,590 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 – 31 มกราคม 2568 เกิดสัญญาเช่าซื้อภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568