บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ได้จัดการประชุม AOT Sister Airport CEO Forum 2024 ระหว่างวันที่ 13-15 พฤศจิกายน 2567 ที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ โดยใช้หัวข้อหลัก “Embracing the Next Chapter in Aviation Industry” เพื่อนำเสนอศักยภาพของท่าอากาศยานในประเทศไทยในการก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางการบินและท่องเที่ยวแห่งภูมิภาคอาเซียน
การประชุมในครั้งนี้มี พล.ต.อ. วิสนุ ปราสาททองโอสถ ประธานกรรมการ AOT เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT ตลอดจนผู้บริหารระดับสูงจากท่าอากาศยานภายใต้ความร่วมมือ Sister Airport Agreement (SAA) จำนวน 18 แห่ง และหน่วยงานชั้นนำด้านการบินระหว่างประเทศ เช่น องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และสภาสมาคมท่าอากาศยานระหว่างประเทศ (ACI) เข้าร่วมเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์การบริหารจัดการท่าอากาศยาน
ดร.กีรติ กล่าวว่าการประชุม AOT Sister Airport CEO Forum จัดขึ้นทุก 2 ปีเพื่อเป็นเวทีในการแบ่งปันความรู้และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดจากท่าอากาศยานชั้นนำทั่วโลก พร้อมนำเสนอแนวโน้มใหม่ของอุตสาหกรรมการบิน ตลอดจนการสร้างความร่วมมือทั้งในและนอกประเทศ เพื่อรับมือกับความท้าทายของอุตสาหกรรมในอนาคต และยกระดับการดำเนินงานของ AOT ให้เป็นไปอย่างยั่งยืน
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และยกระดับการให้บริการ
ในการประชุมนี้ AOT ได้นำเสนอแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารสูงสุดถึง 150 ล้านคนต่อปี ซึ่งรวมถึงการสร้างรันเวย์ที่สามเพื่อรองรับเที่ยวบินเพิ่มเป็น 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีโครงการขยายอาคารผู้โดยสารทั้งส่วนตะวันออกและด้านทิศใต้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารมากขึ้น ทั้งยังมีแผนสร้างทางวิ่งที่สี่ที่จะรองรับเที่ยวบินได้สูงสุดถึง 120 เที่ยวบินต่อชั่วโมง
ท่าอากาศยานดอนเมืองก็มีแผนพัฒนารองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 40-50 ล้านคนต่อปี โดยการพัฒนาโครงการอาคาร Junction Building ซึ่งเชื่อมต่อกับระบบรถไฟสายสีแดง เพิ่มพื้นที่จอดรถและพื้นที่พาณิชย์ ตลอดจนแผนก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) เพื่อยกระดับท่าอากาศยานดอนเมืองสู่สนามบินหลักสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
มุ่งสู่ Green Airport และการใช้พลังงานสะอาด
AOT ยังได้ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน โดยมุ่งเปลี่ยนสนามบินให้เป็น Green Airport ผ่านการใช้พลังงานสะอาดผลิตไฟฟ้ารวม 37.81 เมกะวัตต์ ซึ่งจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 555,686.271 tCO2e ในระยะเวลา 20 ปี และยังสามารถลดต้นทุนด้านพลังงานได้ถึง 25% ทั้งนี้ AOT ยังมีแผนเปลี่ยนรถในสนามบินทั้งหมดเป็นระบบไฟฟ้า และส่งเสริมให้บริการรถแท็กซี่ไฟฟ้าสำหรับผู้โดยสาร ตลอดจนติดตั้งสถานีชาร์จ EV สำหรับรถโดยสารสาธารณะอีกด้วย นอกจากนี้ AOT ยังตั้งเป้าหมายให้บริการเชื้อเพลิงอากาศยานที่ยั่งยืน (SAF) ภายใน 3 ปี เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางการผลิตและจำหน่าย SAF ของภูมิภาค
เทคโนโลยีทันสมัยเสริมประสิทธิภาพการบริการ
AOT ได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบ Biometric Facial Recognition ที่ช่วยยืนยันตัวตนผู้โดยสาร รวมถึงระบบ CUPPS (Common Use Passenger Processing System) สำหรับการเช็กอินและขึ้นเครื่องบินอัตโนมัติ เพื่อช่วยลดเวลาการรอคอยและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการแก่ผู้โดยสาร
การประชุม AOT Sister Airport CEO Forum 2024 ครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงถึงศักยภาพของท่าอากาศยานไทยในเวทีโลก แต่ยังเป็นเวทีในการสร้างความร่วมมือกับท่าอากาศยานชั้นนำระดับโลก สนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน