news-details
Business

“กาแฟพันธุ์ไทย”กางแผน 3 ปี ส่วนแบ่งตลาดพุ่งแตะ 40% ขึ้นแท่นเบอร์ 1 สาขามากสุด ตั้งเป้ายอดขายปี 67 ทะลุ 3,300-3,500 ล้านบาท ส่ง “กาแฟดริปพันธุ์ไทย” สานต่อความยั่งยืนทั้งระบบ

“กาแฟพันธุ์ไทย”กางแผน 3 ปี ส่วนแบ่งตลาดทะยานแตะ 40% ขึ้นแท่นสาขามากสุดอันดับ 1 ในไทย กว่า 5,000 แห่ง ทั้งรูปแบบลงทุนเอง-แฟรนไชส์ สัดส่วน 50:50 ล่าสุดสร้างปรากฏการณ์เติบโตกว่า 75 % พร้อมรุกตลาดพรีเมียมและ Specialty Coffee สานต่อกลยุทธ์เจาะตลาด Home Coffee ต่อเนื่อง เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กาแฟดริปพันธุ์ไทย” จากการสร้างสรรค์ของ10 Coffee Master นักอนุรักษ์ธรรมชาติ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Dripple Effect ดริป...สร้างชีวิตไม่รู้จบ ชูจุดยืนสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืน ตั้งแต่เกษตรกรถึงผู้บริโภค ตอกย้ำความมุ่งมั่นดูแลตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ พร้อมเผยกลยุทธ์ขยายฐานคนรุ่นใหม่ เปิดตัวเลขการเติบโตของแบรนด์พันธุ์ไทย 9 เดือนแรก กวาดรายได้1,500 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ทะลุ 3,300-3,500 ล้านบาท 

 

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด(มหาชน)หรือ PTG เปิดเผยถึง ภาพรวมธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทย ว่าจากงบการเงินปี 2562 - 2566 กาแฟพันธุ์ไทย มีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องจาก 355 ล้าน เป็น 1,304 ล้าน โดยมีกำไรสุทธิปี 2566 อยู่ที่ 212.03 ล้านบาท สำหรับภาพรวมธุรกิจ 9 เดือนแรกของปี 2567 มีรายได้ 1,540 ล้านบาท เติบโต 75.1% มีจำนวนสาขาเพิ่มขึ้นเป็น 1,126 สาขา เติบโต 48.9% ตั้งเป้าขยายสาขาของกาแฟพันธุ์ไทยเป็น 1,282 – 1,300 สาขา ภายในสิ้นปี โดยยอดขายจากสาขาเดิม (Same-Store Sales Growth) ยังคงเติบโตระหว่าง 20-30% หรืออยู่ที่ 100 - 120 แก้วต่อวันต่อสาขา โดยตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ 3,300-3,500 ล้านบาท 

สำหรับ มูลค่าตลาดกาแฟไทย จากผลสำรวจของ Euromonitor International รายงานว่ากาแฟเป็นสินค้าที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น และมีการเติบโตต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2564-2566 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 8.55% ต่อปี ในปี 2566 พบว่ากาแฟสดมีมูลค่าตลาด 5,519.1 ล้านบาท คิดเป็น 16% จากไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์รสชาติกาแฟที่หลากหลาย ชื่นชอบความสะดวกสบาย และหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยมิติของตลาดกาแฟในไทย มีมูลค่ามากกว่า 60,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดกาแฟในบ้าน 33,000 ล้านบาท ตลาดกาแฟนอกบ้าน 27,000 ล้านบาท สำหรับเทรนด์กาแฟพิเศษ (Specialty Coffee) มีอัตราการเติบโตสูงเพิ่มขึ้น เฉลี่ย 5-10% ต่อปี และคิดเป็นสัดส่วน 11% ของตลาดกาแฟทั้งหมด โดยมูลค่าการตลาดกาแฟพิเศษในตลาดโลก และเมล็ดกาแฟที่มาจากแหล่งเพาะปลูกเดียว (Single Origin) ก็เติบโตต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วน 20% ของตลาดกาแฟทั่วโลก

ในส่วนของ ตลาดกาแฟนอกบ้าน พันธุ์ไทยได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้าปัจจุบัน และขยายฐานให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น ซึ่งจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความรู้ความเข้าใจในการคัดสรรกาแฟมากขึ้น ทั้งด้านแหล่งเพาะปลูก กระบวนการผลิต ไปจนถึงระดับการคั่ว พันธุ์ไทยจึงมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าคุณภาพดี รสชาติพรีเมียม โดยคงความเป็นเอกลักษณ์ พร้อมสนับสนุนกาแฟไทย ในราคาเข้าถึงง่าย สำหรับตลาดกาแฟในบ้านนั้น พันธุ์ไทยได้เดินหน้าพัฒนามาโดยตลอด ตั้งแต่การเปิดตัว 5 กาแฟอาราบิก้า 100% จาก 5 ดอยสูง การนำเสนอกาแฟพันธุ์ไทย สเปเชียล เบลนด์ ทั้งโทนนัตตี้ คั่วกลาง และฟรุตตี้ คั่วอ่อน ต่อเนื่องมาถึงกาแฟดริปพันธุ์ไทย 9 รสชาติจาก 9 นักสร้างสรรค์กาแฟชื่อดัง เมื่อปลายปีที่ผ่านมา จนถึงการเปิดตัว กาแฟแคปซูลพันธุ์ไทย แบบHome Compostable แบรนด์แรกของไทย ที่ทุกชิ้นส่วนสามารถย่อยสลายได้ 100% โดยไม่ทำร้ายธรรมชาติ

วันนี้มาถึง การเปิดตัว กาแฟดริปพันธุ์ไทยที่สานต่อความตั้งใจในการดูแลผลผลิตกาแฟตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ จาก 10 Coffee Master ที่มีจุดร่วมเดียวกันคือการสร้างคุณค่าให้กับผืนป่า เป็นของขวัญจากธรรมชาติที่ผ่านกระบวนการปลูก การคัดสรร การผลิตอย่างละเมียดละไม พิถีพิถัน จนได้รสชาติ และกลิ่นหอมที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ พร้อมส่งต่อพลังการขับเคลื่อนผ่านดริปทุกหยดของกาแฟ สู่มรดกแห่งความยั่งยืนให้กับคนรุ่นหลังจากรุ่นสู่รุ่นต่อไป

วิสัยทัศน์ในการดำเนินงานที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมว่า “PTG มุ่งมั่นถ่ายทอดแนวคิด ‘ให้คิดเรื่องกาแฟเป็นเรื่องสุดท้าย ให้คิดเรื่องป่าเป็นเรื่องแรก’ โดยมีภารกิจในการส่งเสริมศักยภาพของเกษตรกร ด้วยแนวทางการปลูกกาแฟควบคู่กับการอนุรักษ์ป่าไม้ ซึ่งในปี 2566 PTG ร่วมมือกับ กรีโนเวท ส่งเสริมเกษตรกรในตำบลปางหินฝน อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ผ่าน “โครงการพัฒนาและส่งเสริมการปลูกกาแฟอาราบิกาบนพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน” ซึ่งเน้นการปลูกกาแฟที่กลมกลืนกับระบบนิเวศป่าไม้ พร้อมพัฒนาพื้นเขาหัวโล้น ให้กลายเป็นพื้นที่ป่ากาแฟที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งแนวทางนี้ไม่เพียงแต่ช่วยอนุรักษ์ป่าไม้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้การเกษตรและการอนุรักษ์ดำเนินควบคู่กันไปได้ โดยตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงปัจจุบัน

มีเกษตรกรเข้าร่วม 24 ราย ปลูกกาแฟ 68,000 ต้น บนพื้นที่กว่า 200 ไร่ ปัจจุบันมีการส่งเสริมการปลูกกาแฟไปแล้ว 1,400 ไร่ รวม 420,000 ต้น โดยมีเกษตรกรกว่า 400 รายเข้าร่วม โดยมีเป้าหมายคือการรับซื้อกาแฟสารให้ได้ 8,000 ตัน จากพื้นที่กว่า  55,000 ไร่ เพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกรกว่า 10,000 ครัวเรือน ภายในระยะเวลา 5 ปีนี้

ล่าสุด PTG ยังดำเนินงานแบบบูรณาการร่วมกับ 3 หน่วยงานในการพัฒนาพื้นที่ป่า และส่งเสริมการปลูกพืชเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน โดยร่วมมือกับ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ในด้านการส่งเสริมองค์ความรู้ให้กับเกษตรกร ร่วมมือกับ กรมป่าไม้ ในการจัดหาพื้นที่ปลูกกาแฟ ไม่น้อยกว่า 50,000 ไร่ ต่อเนื่อง 3 ปี และร่วมมือกับ ธ.ก.ส. ด้านการสนับสนุนแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมกับเกษตรกร โดยกาแฟอาราบิก้าจากความร่วมมือดังกล่าว จะถูกส่งตรงไปยังร้านกาแฟพันธุ์ไทย โดยรับซื้อผลผลิตตามคุณภาพ ปริมาณ และราคาอย่างเป็นธรรม ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมรักษาสิ่งแวดล้อมให้สมดุลและยั่งยืน

         

ด้าน นางสาวสุขวสา ภูชัชวนิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดกาแฟไทยนั้น ไม่มีตัวเลขที่ชัดเจน เมื่อเทียบกับตลาดน้ำมัน แต่คาดว่ากาแฟพันธุ์ไทย จะสามารถขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ในอนาคต อย่างไรก็ตามมองว่าปัจจุบันตลาดกาแฟในไทย มีมูลค่ารวมกว่า 60,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดกาแฟในบ้าน 33,000 ล้านบาท ตลาดกาแฟนอกบ้าน 27,000 ล้านบาท ซึ่งกาแฟพันธุ์ไทย มีส่วนแบ่งการตลาด 6% ในปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 11-12% ในสิ้นปี 2567 โดยในปี 2568 บริษัทตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 18-20% ของมูลค่าตลาด 31,000 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 40% ในปี 2570-2571 โดยมีจำนวนสาขาร้านกาแฟพันธุ์ไทยทั่วประเทศกว่า 5,000 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทลงทุนเองและสาขาแฟรนไชส์ ในสัดส่วน 50:50 โดยปัจจุบันมีผู้สนใจซื้อแฟรนไชส์เป็นจำนวนมาก ซึ่งในไตรมาส 1/2568 มีดีลจบแล้วและรอเปิดสาขาจำนวน 200-300 สาขา ซึ่งจะทำให้ในปี 3 ปีข้างหน้า กาแฟพันธุ์ไทย จะมีสาขามากเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาทำตลาดไม่ต่ำกว่า 5 รายการต่อปี จากปัจจุบันที่มีสินค้าจำหน่ายประมาณ 100 รายการ

“โดยในปี 2568 กาแฟพันธุ์ไทย มีแผนจะรุกเปิดสาขาในศูนย์การค้า ตามหัวมุมเมืองทั่วกทม. จำนวน 15-20 แห่โดยสาขาที่มีขนาดใหญ่ พื้นที่ 180-200 ตารางเมตร จะใช้เงินลงทุนประมาณ 3.5-4 ล้านบาท/สาขา และสาขาขนาดเล็ก พื้นที่ 45-55 ตารางเมตร ใช้เงินลงทุนประมาณ 1.5-2.5 ล้านบาท/สาขา” นางสาวสุขวสา กล่าว

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนรุกตลาดตลาดกาแฟในบ้าน อย่างต่อเนื่อง โดยเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เปิดตัว 5 กาแฟอาราบิก้า 100% จาก 5 ดอยสูง , กาแฟพันธุ์ไทย สเปเชียล เบลนด์ และกาแฟดริปพันธุ์ไทย 9 รสชาติ และกาแฟแคปซูลพันธุ์ไทยแบบ Home Compostable แบรนด์แรกของไทย ล่าสุด เปิดตัวกาแฟดริปพันธุ์ไทย ที่สานต่อความตั้งใจในการดูแลผลผลิตกาแฟ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก 10 นักสร้างสรรค์กาแฟไทย ดูแลการผลิตตั้งแต่บ่มเพาะ จนถึงขั้นตอนการคัดสรรเป็นกาแฟดริปที่มีกลิ่นหอมและมีเอกลักษณ์

สำหรับ กาแฟดริปพันธุ์ไทย คอลเลกชันนี้ ได้รับแรงบันดาลใจจาก “10 นักสร้างสรรค์กาแฟไทย” ที่มีจุดร่วมเดียวกันคือ การสร้างคุณค่าให้กับผืนป่า ที่ผ่านกระบวนการบ่มเพาะทุกเมล็ดพันธุ์จากต้นน้ำถึงปลายน้ำอย่างละเมียดละไม โดยความพิเศษในครั้งนี้ เรามีCoffee Master หญิงอย่าง คุณโสภา มาเติมเต็มการสร้างสรรค์รสชาติที่พิเศษยิ่งขึ้น โดยคอลเลคชันนี้ได้เน้น Process กระบวนการผลิตที่แตกต่างกันของเกษตรกรแต่ละท่าน มาเป็นกิมมิคในการนำเสนอความพิเศษของกาแฟแต่ละแหล่ง นอกจากนั้นแต่ละท่านก็มีกระบวนการที่แตกต่างกัน ยิ่งทำให้ได้รสชาติที่ไม่เหมือนใคร เช่น Washed Process ที่ให้รสชาติที่สะอาด สดชื่นแบบ Acidity รวมถึงมีความหวาน ชุ่มคอ ดื่มง่าย แบบ Natural Process  มีบอดี้สูง รสเข้มข้น Acidity มีความหวาน มีกลิ่นผลไม้ที่ชัดเจน และแบบ Honey Process ที่ให้ความหวานหอมแบบผลไม้สุกแห้ง หวานชุ่มคอคล้ายน้ำผึ้ง

นอกจากนี้ พันธุ์ไทยยังได้ร่วมงานกับ คุณโบ้ม - วิศัลย์ศยา ลอยไสว หรือรู้จักกันในนามLinghokkalom ศิลปินคนรุ่นใหม่ที่มาถ่ายทอดผลงานในคอนเซ็ปต์ Dripple Effect ได้อย่างลงตัว “รู้สึกดีใจและขอบคุณที่กาแฟพันธุ์ไทยเชิญมาร่วมงานในโปรเจ็คนี้ เป็นงานที่สนุกมาก ภูมิใจที่ผลงานของเราจะถูกนำไปแสดงทั่วประเทศ โดยแรงบันดาลใจในการคิดงานมาจากคาแรคเตอร์ของ Coffee Master ทั้ง 10 ท่าน ที่มีเอกลักษณ์และวิธีการปลูกกาแฟที่น่าสนใจ เราจึงใช้รสชาติและเทสโน้ตประกอบกับวิถีชีวิตของพวกเขาในการกำหนดโทนสี และเล่าเรื่องราวผ่านภาพ เพื่อให้กาแฟทั้ง 10 มีความโดดเด่นร่วมกัน จากโจทย์คือ“ดริป...สร้างชีวิตไม่รู้จบ” จึงนำเสนอในรูปแบบ Dripple Effect ที่สื่อสารให้เห็นว่ากาแฟทุกหยดส่งต่อพลังความยั่งยืนจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ สร้างแรงกระเพื่อมให้ชีวิตมากมาย ฟื้นฟูธรรมชาติและสร้างพื้นที่ป่า เป็นกาแฟรักษ์โลกสำหรับคนรุ่นใหม่จากนักทำกาแฟไทย เพื่อคอกาแฟทุกคน”

 เพราะทุกครั้งที่ดริป...เปรียบเสมือนการสร้างพลังอันยิ่งใหญ่ ผ่าน 10 นักสร้างสรรค์กาแฟ ผู้ยกระดับกาแฟไทยให้เต็มไปด้วยความหมาย โดยการบ่มเพาะทุกเมล็ดและการดริปทุกหยด เพื่อสร้างแรงกระเพื่อมในวงกว้าง จากวิถีชีวิตชุมชนที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติ ช่วยสร้างอากาศบริสุทธิ์ให้กับผู้คน และสิ่งมีชีวิตทุกชนิด พร้อมเติมเต็มความอุดมสมบูรณ์ นำไปสู่การสร้างรายได้ที่มั่นคงและชีวิตที่ “อยู่ดี มีสุข” อย่างยั่งยืนไม่รู้จบ

1.กาแฟที่เติบโตไปพร้อมกับธรรมชาติ: วัลลภ ปัสนานนท์

2.กาแฟออร์แกนิกท่ามกลางป่าสน: แสนชัย จูเปาะ

3.กาแฟป่าต้นน้ำ: เปา เลอตอโกล

4.กาแฟที่งอกงามด้วยศรัทธาและการให้: เคเลบ จอร์แดน

5.กาแฟ GI กาแฟเทพเสด็จ บ้านแม่ตอนหลวง: เอก สุวรรณโณ

6.กาแฟในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง: โสภา ดอยอมก๋อย

7.กาแฟออร์แกนิกจากยีสต์: แดง ดูลาเปอร์

8.กาแฟจากป่ายอดดอยสูง: ชาติชาย คะบู่

9.กาแฟพื้นถิ่นที่คงความเป็นเอกลักษณ์: อัคคเดช เปียวเชกู่

10.กาแฟต้นน้ำป่าน่าน: วิชัย กำเนิดมงคล

“PTG คือต้นน้ำ ในการวางรากฐานของการอนุรักษ์ฟื้นฟูผืนป่าให้สมบูรณ์ และส่งเสริมการปลูกกาแฟให้ได้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพ กาแฟพันธุ์ไทย คือปลายน้ำในการรับซื้อผลผลิตของเกษตรกร ช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้คนในชุมชน สามารถเลี้ยงครอบครัวได้ โดยไม่ต้องจากถิ่นฐานบ้านเกิดไปทำงานในเมืองใหญ่ สร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมให้เติบโตไปพร้อมๆกัน” นางสาวสุขวสา กล่าว

โดยเทศกาลปีใหม่ 2568 นี้ พันธุ์ไทยขอมอบของขวัญที่เต็มไปด้วยความหมาย อิ่มเอมใจทั้งผู้ให้และผู้รับด้วย "กาแฟดริปพันธุ์ไทย" จากแรงบันดาลใจในความรักถิ่นฐานบ้านเกิด และความผูกพันกับธรรมชาติของ 10 นักสร้างสรรค์กาแฟไทย ที่ตั้งใจส่งมอบเอกลักษณ์กาแฟไทยทั้ง 10 รสชาติ พร้อมกลิ่นหอมละมุน ดื่มด่ำความอบอุ่นในทุกแก้ว กับแพ็กเกจจิ้งดีไซน์สวยในคอนเซ็ปต์ Dripple Effect ดริป...สร้างชีวิตไม่รู้จบ มี 2 แบบให้สะสม หรือมอบเป็นของขวัญให้คนที่คุณรัก

-กล่องเล็ก - บรรจุกาแฟดริป 10 ซอง 10 รสชาติ ราคา 395 บาท

-กล่องใหญ่ - บรรจุกาแฟดริป 20 ซอง 10 รสชาติ พร้อมแก้วกาแฟเซรามิก 1 ใบ ราคา 1,290 บาท

พร้อมจำหน่ายแล้วที่ร้านพันธุ์ไทยทุกสาขาทั่วประเทศที่ร่วมรายการ สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ https://shopee.co.th/punthaicoffee_officialshop กล่องเล็ก https://th.shp.ee/fzN1eCH และ กล่องใหญ่ https://th.shp.ee/nMM8TkS ยกเว้นบริการเดลิเวอรีจัดส่งถึงบ้าน พิเศษ! ซื้อกาแฟดริปพันธุ์ไทยกล่องเล็ก 2กล่อง ราคาเพียง 750 บาท (จากปกติ 790บาท) ตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 -  31ธันวาคม 2568 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด

ส่วนความคืบหน้าหลังจากเปิดตัวการ์ดจุ่มพันธุ์ไทย “ลายพี่จอง & คัลแลน” มี 5 แบบ และ 1 ซีเคร็ท แค่ซื้อไทยริกาโน 3 แก้ว/ใบเสร็จ ก็ได้ลุ้นสมาชิกบัตร Max Card Plus / EV ใช้ส่วนลด 50% ไปเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามียอดขายจากผู้ใช้บริการรายใหม่ที่ใช้บัตรฯมากถึง 50%

 

เกี่ยวกับ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด

กาแฟพันธุ์ไทย เป็นหนึ่งในธุรกิจ Non-Oil ในเครือบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ผู้ให้บริการสถานีน้ำมันพีที กาแฟพันธุ์ไทยเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2555 ปัจจุบันก้าวเข้าสู่ปีที่ 12 เปิดให้บริการกว่า 1,126 สาขาทั่วประเทศ ด้วยความแข็งแกร่งของแบรนด์ที่มีอัตลักษณ์และเสน่ห์ของความเป็นไทย มี Brand DNA ที่สะท้อนความเป็นไทยอย่างชัดเจน พันธุ์ไทยใช้เมล็ดกาแฟอาราบิก้าแท้ 100 % จากภาคเหนือของไทย โดดเด่นด้วยเมนูเครื่องดื่มที่รังสรรค์จากวัตถุดิบคุณภาพ รสชาติอร่อยไม่เหมือนใครและหาทานได้ยาก พร้อมสนับสนุนเกษตรกร ให้ ‘อยู่ดีมีสุข’ โดยการจัดหาวัตถุดิบท้องถิ่นจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย เช่น น้ำตาลดอกมะพร้าวจากอัมพวา ตาลโตนดจาก จากสงขลา ส้มมะปี๊ด จากจันทบุรี ชาอัสสัม จากน่าน เป็นต้น ควบคู่การอนุรักษ์ธรรมชาติและดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยื

You can share this post!