InnovestX มองภาพรวมตลาดหุ้นไทย ยังมีสัญญาณที่ดี ได้แรงหนุนกลุ่มพลังาน หลังราคาน้ำมันดิบเริ่มฟื้นตัว แนวต้าน 1,470 จุด
บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ (21 พ.ย.) คาด SET เคลื่อนไหวภายในกรอบ โดยกรอบบนยังถูกจำกัดบริเวณแนวต้าน 1,465-1,470 จุด โดยมีปัจจัยกดดันจากหุ้น DELTA ที่ติด Cash Balance ส่วนกรอบล่างมีแนวรับบริเวณ 1,445-1,450 จุด คาดยังรองรับได้ จากแรงหนุนกลุ่มพลังาน หลังราคาน้ำมันดิบเริ่มฟื้นตัว ทั้งนี้ ในภาพรวม มองดัชนียังมีสัญญาณที่ดี โดยหากทะลุ 1,470 จุด จะเป็นบวกต่อ และมีแนวต้านถัดไปที่ 1,480 จุด
ประเด็นสำคัญ
• รมช. คลังเผยบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจได้เห็นชอบหลักการมาตรการแก้หนี้ภาคประชาชนแล้ว โดยจะปรับโครงสร้างหนี้ใหัลูกหนี้ที่เป็นหนี้เสียกับ ธพ.ด้วยการพักชำระดอกเบี้ยและจ่ายเฉพาะเงินต้นเป็นเวลา 3 ปี ธปท. ขานรับมาตรการแก้หนี้ครัวเรือนและจัดประชุมพิจารณาปรับลดเงินนำส่ง FIDF เหลือ 0.23% นาน 3 ปี
• ม. หอการค้าไทยประเมินทรัมป์เก็บภาษีจีน 60% ขณะที่ไทยโดนหางเลข 10-15% ทำเศรษฐกิจเสียหายกว่า 1.6 แสนลบ. ฉุดส่งออกดิ่ง 1.52% GDP ทรุด 0.87% กระทบเครื่องใช้ไฟฟ้า-อาหาร-ยางโดยตรง แนะรัฐเร่งกระตุ้นช่วงปลายปีก่อนเศรษฐกิจไทยทรุด
• อสังหาฯ เตรียมรับอานิสงส์ทรัมป์เอฟเฟ็กต์คอนโดมิเนียมรอโอน 3 หมื่นล้าน จับตาจีนและไต้หวันย้ายฐานสู่ EEC กว้านซื้อที่ดินชลบุรีและระยอง ผุดโรงงานนอกพื้นที่นิคม บูมคลังสินค้า สำนักงาน ที่อยู่อาศัย
• คลังคาดแจกเงินหมื่นเฟส 2 ให้กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป 4 ล้านราย ประกาศผู้ผ่านเกณฑ์เดือน ธ.ค. ส่วนเฟส 3 คาดเริ่ม เม.ย. 2568
• EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 545,000 บาร์เรล มากกว่าตลาดคาด และ Equinor ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานของนอร์เวย์กลับมาดำเนินการผลิตที่บ่อน้ำมัน Johan Sverdrup (ใหญ่สุดในยุโรปตะวันตก) หลังระงับการผลิตจากปัญหาไฟฟ้าดับเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
• รมว. พลังงานสั่งกกพ. ระงับเปิดรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเฟส 2 ชั่วคราว จนกว่าจะตรวจสอบเสร็จหลังมีผู้โต้แย้ง มองเป็น Sentiment ลบระยะสั้นต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า
• Nvidia เผยผลประกอบการ 3Q67 สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ รายได้รวมเติบโต 94% หนุนจากธุรกิจเกี่ยวกับ Data Center ที่เติบโต 112%
กลยุทธ์การลงทุน
แม้ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัว Sideway ปัจจัยต่างประเทศค่อนข้างจำกัดหลังตลาดรับรู้ปัจจัยบวกจากนายโดนัลด์ ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่แล้ว สะท้อนจากผลตอบแทนและกระแสเงินที่ไหลเข้าหุ้นกลุ่มการเงินและหุ้นขนาดเล็กของสหรัฐฯรวมถึงกระแสเงินที่ไหลออกจากตลาดหุ้น EM และตลาดหุ้นจีนจาความกังวลนโยบายปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐฯ ส่วนปัจจัยในประเทศมองอยู่ในช่วงปรับประมาณการของบจ. และกำไรตลาด หลังภาพรวมกำไรของ SET 3Q67 อ่อนตัวลงทั้ง YoY และ QoQ อีกทั้งมีประเด็นต้องติดตามจากบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจเตรียมหารือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในวันที่ 19 พ.ย. และศาลรัฐธรรมนูญพิจารณารับคำร้องคดียุบพรรคเพื่อไทยในวันที่ 22 พ.ย.นี้ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”
Daily top picks
AMATA: ปี 2567 คาดจะโดดเด่นทั้งยอดขายที่ดินที่คาดจะทำ New High ที่ 2,500 ไร่และผลประกอบการที่จะเติบโตสูงถึง 27.3%YoY รวมไปถึง Backlog ในมือที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 19,269 ลบ. ซึ่งจะหนุนผลประกอบการในช่วง 6-8 ไตรมาสข้างหน้า และคาดแนวโน้มการขายที่ดินในปี 2568 จะยังแข็งแกร่งด้วยผลจากการย้ายฐานการผลิตและการเติบโตของ New Economy
CPAXT: มองเป็นหนึ่งในผู้ได้รับประโยชน์หลักของกลุ่มพาณิชย์จากการเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาล ขณะที่ 4Q67 คาดจะเป็นจุดสูงสุดของกำไรปีนี้ โดยเติบโต QoQ ตามผลฤดูกาล และ YoY จากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้น ทั้งนี้ภายหลังควบรวมกิจการ Synergy จะเริ่มมีให้เห็นใน 4Q67 และชัดเจนมากขึ้นในช่วงกลางปี 2568