TBN ประกาศแผนกลยุทธ์ใหม่ในการบุกตลาดด้วย AI-driven Low-Code, Generative AI และ AI-driven Communications Platform มุ่งช่วยลดเวลาในการพัฒนาแอปพลิเคชัน และใช้ AI ในการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้องค์กรลูกค้า พร้อมขยายตลาดออโต้โมทีฟ เตรียมเข้าสู่ยุค AI เพื่อเสริมสร้างความหลากหลายด้านการบริการและผลิตภัณฑ์ของบริษัท ส่วน Backlog ปัจจุบันอยู่ที่ 242 ลบ. รับรู้รายได้ยาวถึงปีหน้า
นายปนายุ ศิริกระจ่างศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TBN เปิดเผยถึงพัฒนาการของ Mendix สู่การเป็น AI Low-Code Platform เพื่อช่วยลดระยะเวลาในการพัฒนาแอปพลิเคชัน และใช้ AI เพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานให้ตอบโจทย์ธุรกิจที่ต้องการความยืดหยุ่นและความเร็วในการปรับตัว
TBN ยังคงให้ความสำคัญกับการขยายตลาดในอุตสาหกรรมออโต้โมทีฟ ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญที่บริษัทมีฐานลูกค้าแข็งแกร่ง โดยมีแผนต่อยอดไปสู่การพัฒนาโซลูชัน AI และเทคโนโลยีการผลิตอื่นๆ ช่วยเสริมศักยภาพการแข่งขันในตลาดระดับสูง
สำหรับกลยุทธ์การเติบโตในปี 2025 บริษัทฯ เตรียมเพิ่มผลิตภัณฑ์และการบริการ Generative AI ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถนำ AI จัดการและบริหารความรู้ (Knowledge management) รวมถึงการจัดการเอกสาร (Document Management) ภายในองค์กร
นอกจากนี้ TBN ยังเตรียมก้าวสู่การพัฒนา และ AI-driven Communications Platform เริ่มต้นซึ่งเป็นช่องทางการสื่อสารจากลูกค้าภายนอกสู่องค์กร อาทิเช่น Contact Center รวมถึงการบริหารการสื่อสารจากลูกค้าจากทุก platform เช่น social media ต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารและการเข้าถึงลูกค้า
ด้าน Backlog ล่าสุดที่มูลค่ารวม 242 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการที่มีกำหนดรับรู้รายได้ในปี 2567 จำนวน 67 ล้านบาท และโครงการที่จะรับรู้ในปี 2568 อีก 174 ล้านบาท ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีโครงการที่อยู่ในระหว่างการเจรจาลงนามจากลูกค้าเพิ่มเติม ซึ่งครอบคลุมงานด้าน Implementation MA License และ Cloud Solutions
อีกทั้งในช่วงต้นไตรมาส 4/2567 บริษัทฯ มีหลายโครงการที่อยู่ในขั้นตอนการ Finalize และคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ได้ทันทีเมื่อโครงการเหล่านี้ได้รับการลงนามอย่างเป็นทางการ ซึ่งนับเป็นสัญญาณบวกสำหรับการเติบโตของบริษัทในช่วงปลายปีนี้ นอกจากนี้มีโครงการที่บริษัทฯ ติดตามอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นมูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ที่คาดว่าจะได้รับการอนุมัติงบประมาณในเร็วๆ นี้ โดยบริษัทเห็นสัญญาณที่ดีจากการเพิ่มงบประมาณด้าน IT ของลูกค้าในหลายอุตสาหกรรม
ด้านโครงการ Mendix Academy by TBN ได้รับการตอบรับที่ดี โดยมีการพัฒนาทักษะด้าน Low-Code และการพัฒนาแอปพลิเคชันให้กับบุคลากร ช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำงานของผู้เรียน พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ทำความรู้จักกับคอมมูนิตี้ของชาว Mendix ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
“กลยุทธ์และการพัฒนาเหล่านี้จะช่วยให้ TBN สามารถก้าวหน้าในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและสร้างโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่กำลังเกิดขึ้น” นายปนายุ กล่าวทิ้งท้าย
โดยล่าสุด ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น ประกาศความร่วมมือกับบริษัท วีอาร์ อินเทลลิเจนซ์ จำกัด (VRI) ในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ภายใต้ชื่อ “บริษัท ซีโร่วัน จำกัด” หรือ ZERO One มุ่งเน้นการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ทันสมัยสำหรับภาคอุตสาหกรรมการผลิต รวมถึงให้บริการติดตั้ง วางระบบ และบำรุงรักษาซอฟต์แวร์สำหรับองค์กรทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเพื่อเป็นการผสานความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของ TBN กับประสบการณ์ในภาคการผลิตของ VRI เพื่อพัฒนาโซลูชันที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมการผลิตที่กำลังมุ่งสู่ระบบดิจิทัลมากขึ้น
ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ TBN ในการเสริมสร้างศักยภาพด้านนวัตกรรมและขยายตลาดอย่างรวดเร็ว โดยการผสานจุดแข็งของทั้งสองบริษัท เพื่อผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศไทย