news-details
Business

ผลประกอบการ 9 เดือนแรกปี 67 ของ 40 บริษัทอสังหาฯในตลาดฯ “ศุภาลัย”ขึ้นแท่นกำไรสูงสุด ด้าน “แสนสิริ”รายได้-สินค้าคงเหลือ-อยู่ระหว่างก่อสร้างสูงสุด

รายได้และกำไร 9 เดือนแรก ปี  2567 ของ 40 บริษัทอสังหาฯ ลดลง 0.22% และ 24.90% (YoY) ตามลำดับ

รายได้รวมและกำไรสุทธิ ของ 40  บริษัทอสังหาฯ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) 9 เดือนแรกปี 2567 มีมูลค่ารวม 234,206.34 ล้านบาท  และกำไรสุทธิที่ 20,987.91 ล้านบาท ลดลง 0.22% และ 24.90 % ตามลำดับ เมื่อเทียบกับรายได้รวม และกำไรสุทธิ ของ 40 บริษัทอสังหาฯ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วง 9 เดือนแรกปี 2566 ที่มีมูลค่ารวม 234,743.77  ล้านบาท และกำไรสุทธิรวม 27,948.14 ล้านบาท 

ความสามารถในการทำกำไรเฉลี่ย 8.96 %

มีความสามารถในการทำกำไรเฉลี่ยของทั้ง 40 บริษัท ในช่วง 9 เดือนแรกปี 2567 อยู่ที่ 8.96% ดีกว่าครึ่งแรกของปี 2567 ที่อยู่ที่ 8.60% แต่ต่ำกว่า  จากความสามารถในการทำกำไร ที่ 11.90% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566

สินค้าคงเหลือและที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ลดลง 0.38% (QoQ) แต่เพิ่มขึ้น 6.08% (YoY)

สินค้าคงเหลือ บวกกับสินค้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนาของบริษัทอสังหาฯ ทั้ง 40 บริษัท ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 อยู่ที่ 704,935.81 ลดลง 0.38% จากจำนวนสินค้าคงเหลือและที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 707,738.38. ล้านบาท ในไตรมาสสสองของปี 2567 แต่เพิ่มขึ้น 6.29% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2566 ที่มีสินค้าคงเหลือและที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 663,188.48  ล้านบาท แสนสิริ มีสินค้าคงเหลือและที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างสูงสุดที่ 105,668.00 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 14.9% ของสินค้าคงเหลือและที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างของ 40 บริษัท 

รายได้รวมของบริษัท 10 อันดับแรกรวมกันคิดเป็นสัดส่วน 74.17% ของรายได้รวมทั้ง 40 บริษัท ขณะที่กำไรสุทธิของบริษัท 10 อันดับแรกสูงกว่ากำไรสุทธิรวมของทั้ง 40 บริษัท

รายได้รวมของ 10 บริษัทที่มีรายได้สูงสุด อยู่ที่  173,727.91 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 74.17% ของรายได้รวมทั้ง 40 บริษัท ขณะที่กำไรสุทธิของบริษัท 10 อันดับแรกที่มีกำไรสูงสุดมีมูลค่ารวม 22,546.37 ล้านบาท สูงกว่ากำไรสุทธิรวมของ 40 บริษัท เนื่องจาก มีบริษัทที่ ขาดทุนสุทธิทั้งสิ้น 15 บริษัทจาก 40 บริษัท ฉุดให้กำไรสุทธิรวมของทั้ง 40 บริษัท ต่ำกว่าของ 10 บริษัทที่มีกำไรสูงสุด โดยบริษัท ศุภาลัย จำกัด(มหาชน) หรือ SPALI มีกำไรสูงสุด ขณะที่ บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) หรือ SIRI มีรายได้สูงสุด และ มีสินค้าคงเหลือ รวมไปถึงที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างสูงสุด

 

 

 

 

 

You can share this post!