บิ๊กศุภาลัยฯเดินหน้าสนับสนุนวงการครีเอเตอร์ไทยอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เปิด Session สุดพิเศษร่วมพูดคุยคู่กับหูครีเอเตอร์ “เหว่ง-ภูศณัฎฐ์ การุณวงศ์วัฒน์ และเติ๊ด-ภูถิรพัฒน์ อ่องศรี” จากช่องดัง เทพลีลา ในหัวข้อ “Creator Meets Brand : เคล็ดลับต่อยอดคอนเทนต์อย่างไรให้ได้ใจแบรนด์” ถอดเบื้องหลังความสำเร็จในการสร้างสรรค์คอนเทนต์สุดปังร่วมกันระหว่างแบรนด์และครีเอเตอร์ เผยการทำตลาดเปลี่ยนไปตามเทรนด์ หันใช้ครีเอเตอร์เฉพาะด้านแต่ละภาครวม 120 ราย สร้างการรับรู้แบรนด์ 28 จังหวัดในแต่ละภาค ระบุสื่อสารตรงเป้าหมาย ผลตอบรับดีกว่าการใช้รีวิวโครงการที่มีผู้ติดตามมาก แต่ไม่ได้ยอดขาย
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI เปิดเผยในงาน“iCreator Conference 2024 Presented by SUPALAI” งานมหกรรมรวมกลุ่มคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ชั้นนำและแพลตฟอร์มระดับโลกครั้งใหญ่ที่สุดในไทย ณ ไบเทค บางนา ว่า บริษัทฯได้เดินหน้าสนับสนุนวงการครีเอเตอร์ไทยอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 พร้อมเปิด Session สุดพิเศษร่วมพูดคุยบนเวทีในหัวข้อ “Creator Meets Brand : เคล็ดลับต่อยอดคอนเทนต์อย่างไรให้ได้ใจแบรนด์” โดยได้เชิญคู่หูครีเอเตอร์ตัวพ่อ “เหว่ง-ภูศณัฎฐ์ การุณวงศ์วัฒน์ และเติ๊ด-ภูถิรพัฒน์ อ่องศรี” จากช่องดัง เทพลีลา ถอดเบื้องหลังความสำเร็จในการสร้างสรรค์คอนเทนต์สุดปังร่วมกันระหว่างแบรนด์และครีเอเตอร์จนได้ใจแฟนๆทั่วประเทศ ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับเหล่าครีเอเตอร์ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ที่ต้องการร่วมงานกับแบรนด์ เพื่อขยายโอกาสในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ เพิ่มรายได้ และสร้างคอมมูนิตี้ ได้เข้าใจและเรียนรู้ที่จะบาลานซ์ระหว่างความคิดสร้างสรรค์-ตัวตนของตัวเอง และแนวทางของแบรนด์ให้ลงตัวและสอดคล้องไปด้วยกัน ทั้งนี้ที่ผ่านมาศุภาลัยฯได้มีการสร้างสรรค์คอนเทนต์มาหลายรูปแบบ แต่การให้คอนเทนต์ ครีเอเตอร์ เข้าไปใช้ชีวิตในบ้านนั้น ยังไม่เคยดำเนินการมาก่อน ซึ่งจะช่วยทำให้ลูกค้าสามารถซึมซับความเป็นศุภาลัยได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้เมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันจะเห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงในการทำตลาดเพื่อให้ผู้บริโภครู้จักแบรนด์สินค้านั้นค่อนข้างมาก จากเดิมที่จะมีการพิมพ์คอนเทนต์ให้อ่านทางเฟซบุ๊ก แต่ปัจจุบันผู้บริโภคจะหันมาสนใจการสื่อสารผ่านคลิปสั้นๆผ่านโซเชียลมาขึ้น โดยเฉพาะทาง TikTok ที่ได้รับความนิยมและตอบโจทย์เป็นอย่างมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งทางศุภาลัยฯได้พยายามดึงคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ถึง 120 ราย จากแต่ละภาค มาช่วยรังสรรค์คอนเทนต์เพื่อสร้างการรับรู้สินค้าของศุภาลัย ใน 28 จังหวัดทั่วประเทศ เพราะสามารถสื่อสารทำเลของแต่ละจังหวัดได้ดีกว่า อีกทั้งผู้บริโภคแต่ละภาคจะมีความต้องการที่แตกต่างกันไป ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นการร่วมงานกับคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ที่หลากหลายมาก เพราะจะหันไปดึงคอนเทนต์ฯที่มีความถนัดในแต่ละเรื่อง ที่ไม่ใช่คอนเทนต์ฯในสายธุรกิจอสังหาฯ เพราะคอนเทนต์เหล่านี้ จะสามารถสื่อสารกับผู้บริโภคได้ดีและได้ผลตอบรับที่ดีกว่า เช่น การรีวิวอาหาร,ทำเล,สัตว์เลี้ยง หรือการใช้โซลาร์เซลล์ในโครงการ เป็นต้น
“เราจะเลือกงานที่เหมาะสมกับคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ ซึ่งไม่มีความจำเป็นต้องมีผู้ติดตามมาก เนื่องจากสามารถ Boost Post ได้ แต่สิ่งสำคัญคือการสื่อสารกับลูกค้าได้ตรงเป้าหมาย และทำให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้ นั่นคือสิ่งที่เราต้องการมากที่สุด”นายไตรเตชะ กล่าว
อย่างไรก็ตามในปีนี้บูธของศุภาลัย ยังคงคึกคักและแจกความสดใสให้กับคอนเทนต์ของเหล่าผู้เข้าร่วมงานอีกเช่นเคย กับคอนเซปต์สุดเก๋ Supalai Mystery Box: Which Iconic Will You Be? กล่องจุ่มที่เหล่าครีเอเตอร์จะได้ค้นหาความเป็นตัวเอง พร้อมของรางวัลติดมือกลับบ้าน และพิเศษสุดๆ กับกิจกรรม “Affiliator Fast Track” ทางด่วนสำหรับครีเอเตอร์ที่มาสมัครแคมเปญ Supalai Affiliate จะได้รับการอนุมัติและสร้างสรรค์คอนเทนต์ในแบบฉบับของตัวเอง เพื่อรับค่าคอมมิชชันสูงสุด 1 ล้านบาทได้ทันที ซึ่งกิจกรรมนี้ก็ได้รับความสนใจจากผู้ร่วมงานจำนวนมากเช่นเดียวกัน