news-details
Business

“แค๊ปสโตน”เปิดแผนปี’68 ควงA5 ลุยมิกซ์ยูสลักชัวรีย่านซีบีดีต่อเนื่อง พร้อมประกาศรุกตลาดภูเก็ต-พังงา ผุดคอนโดฯหรู“เพย์ลา ภูเก็ต บางเทา” และผนึกพันธมิตรไทยพัฒนารร.แบรนด์ระดับบน ย่านนาใต้ รวมมูลค่า 4.4 พันล้านบาท

แค๊ปสโตน แอสเสทฯเผยแผนปี 68 เตรียมผนึกกลุ่ม A5 ผุดโครงการมิกซ์ยูสระดับลักชัวรีย่านซีบีดี บนที่ดิน Freehold และ Leasehold คาดสรุปผลเจรจาซื้อ-เช่าที่ดินได้ในปี 68 ล่าสุดบุกตลาดภูเก็ต-พังงา ผุดคอนโดฯหรู“เพย์ลา ภูเก็ต บางเทา” และร่วมทุนพันธมิตรอสังหาฯชาวไทยผุดรร.แบรนด์ระดับบน รูปแบบ “ลักชัวรี ไลฟ์สไตล์” และพื้นที่เชิงพาณิชย์ ย่านนาใต้ รวมมูลค่ากว่า 4,400 ล้านบาท ด้านซีบีอาร์อีฯเผยยอดขายตลาดบ้านพักตากอากาศในภูเก็ตครึ่งปีแรก 67 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน พบมียอดขายทุบสถิติเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 142 พบ 5 อันดับแรกนักท่องเที่ยวมากสุดในภูเก็ต ได้แก่ รัสเซีย,จีน,อินเดีย,คาซัคสถาน และ เยอรมนี มั่นใจ “เพย์ลา ภูเก็ต บางเทา” ตอบโจทย์ผู้ซื้อ การันตีผลตอบแทนการลงทุนสูง

 

นายฐิติวัฒน์ คูวิจิตรสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แค๊ปสโตน แอสเสท จำกัด เปิดเผยว่า แม้ปัจจุบันภาพรวมเศรษฐกิจและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังไม่ค่อยฟื้นตัว แต่มองว่าโครงการระดับลักชัวรีขึ้นไปนั้น ยังมีดีมานด์ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซื้อเพื่ออยู่อาศัยและลงทุนอย่างต่อเนื่อง สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯในปัจจุบัน ยังเน้นการพัฒนาโครงการระดับลักชัวรีในย่านใจซีบีดี-ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่กรุงเทพและภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันในอนาคตก็ให้ความสนใจที่จะพัฒนาในทำเลเกาะสมุย และพัทยา เช่นกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2568 นั้น มีแผนที่จะร่วมทุนกับพันธมิตรรายเดิม (คาดการณ์ว่าจะเป็นกลุ่มบริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 ที่เคยร่วมทุนพัฒนาโครงการ “ต้นสน วัน  เรสซิเดนซ์”มาก่อนหน้านี้) ในการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วย คอนโดมิเนียมและโรงแรม สูงกว่า 30 ชั้น  ทำเลชิดลม-เพลินจิต-หลังสวน-วิทยุ พื้นที่ไม่ต่ำกว่า 2 ไร่ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจาซื้อ-เช่าที่ดิน เนื่องจากพื้นที่บางส่วนเป็นที่ดิน Freehold และบางส่วนเป็นที่ดิน Leasehold จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้ คาดว่าจะสามารถสรุปผลการเจรจาได้ในปี 2568

“แนวทางการพัฒนาของเรายังชัดเจน คือเน้นพัฒนาโครงการระดับลักชัวรีขึ้นไป ในพื้นที่ย่านซีบีดี อย่าง ชิดลม เพลินจิต หลังสวน และวิทยุ แม้ว่าที่ดินในการพัฒนาจะหายาก และมีราคาสูง แต่เมื่อพัฒนาโครงการแล้ว สามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็สนใจที่ดินติดแม่น้ำเจ้าพระยา ในฝั่งกทม.ด้วยเช่นกัน แต่ปัจจุบันที่ดินหาได้ยากมาก”นายฐิติวัฒน์ กล่าว

 

ล่าสุดเตรียมเปิดตัวโครงการ“เพย์ลา ภูเก็ต บางเทา” บริเวณหาดบางเทา บนพื้นที่ 10 ไร่ 3 งาน 9 ตารางวา (17,236 ตารางเมตร) พัฒนาในรูปแบบของคอนโดฯหรู สูง 7 ชั้น จำนวน 3 อาคาร รวม 408 ยูนิต ออกแบบในสไตล์ “โมเดิร์น ทรอปิคอล” ผสมผสานกับการตกแต่งภายในในสไตล์ “โคสตัล ชิค” ประกอบด้วยห้องพักหลากหลายประเภท ได้แก่ ห้อง 1 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้นที่ 45 ตารางเมตร ห้องขนาดใหญ่ 2 ห้องนอน ขนาด 82 ตารางเมตร และขนาด 90 ตารางเมตร รวมไปถึงห้องพิเศษคอมไบน์ 3 ห้องนอน ขนาด 127 ตารางเมตร ห้องพักทุกห้องมาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบชุด พร้อมย้ายเข้าอยู่ได้อย่างไร้ความกังวล โดยมีการออกแบบให้อาคารทั้งสามอยู่ล้อมรอบลานกว้างขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่ประมาณร้อยละ 40 ของพื้นที่โครงการทั้งหมด ราคาเริ่มต้นที่ 5.5-20 ล้านบาท หรือเริ่มต้นที่ 120,000 บาท/ตารางเมตร มูลค่าโครงการประมาณ 3,400 ล้านบาท  มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มชาวยุโรป รวมไปถึงรัสเซีย ,สหรัฐอเมริกา และจีน เป็นต้น โดยมอบหมายให้บริษัท ซีบีอาร์อี(ประเทศไทย)จำกัด เป็นที่ปรึกษาและบริหารโครงการ ซึ่งจะเริ่มเปิดขายตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป โดยสำนักงานขายอย่างเป็นทางการจะเปิดให้บริการในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า

“ชื่อ ‘เพย์ลา’ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการคำว่า “เพ-ลา” ซึ่งมีความหมายว่าเวลาในภาษาไทย อีกทั้งยังสื่อความหมายถึงคำว่า “Pearl” หรือไข่มุกในหลากหลายภาษา เป็นการแสดงความเคารพต่อชื่อเสียงของเกาะภูเก็ตในฐานะ “ไข่มุกแห่งอันดามัน” โดยมีแนวคิดที่สะท้อนปรัชญาแห่งการ “ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ในทุกช่วงเวลา” โดยการเปลี่ยนช่วงเวลาธรรมดาให้กลายเป็นความพิเศษ เปิดโอกาสให้ช่วงเวลาที่มีค่าในชีวิตได้ดำเนินไปตามจังหวะของมันเอง ท่ามกลางโครงการที่ตั้งอยู่บนความงดงามตามธรรมชาติของเกาะภูเก็ต” นายฐิติวัฒน์ กล่าว

อีกหนึ่งในจุดเด่นสำคัญของโครงการคือความคล่องตัวตลอดประสบการณ์การเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ โดยโครงการมีแผนนำผู้ให้บริการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์มืออาชีพเข้ามาช่วยดูแล พร้อมทั้งจัดตั้งเคาน์เตอร์บริการดำเนินงานโดยผู้เชี่ยวชาญดูแลการปล่อยเช่าภายในโครงการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าของไม่ว่าระหว่างอยู่อาศัยเองหรือปล่อยเช่าให้เป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่อาศัยและเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ให้แก่เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ มั่นในว่าโครงการจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า เนื่องจากการการันตีผลตอบแทนจากการลงทุนโครงการในภูเก็ตนั้นสูงถึง 8-11% ขณะที่ในกทม.นั้น ผลตอบแทนจากการลงทุนยังไม่ถึงตัวเลข 2 หลัก อีกทั้งราคาอสังหาฯในภูเก็ตนั้น ยังไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับย่านซีบีดีในกทม. เพราะผู้เช่าในพื้นที่ภูเก็ตล้วนมีกำลังซื้อที่สูง

“แม้ว่าทำเลบางเทา จะมีการแข่งขันที่ดุเดือด แต่ในระดับเซกเมนต์ที่เราพัฒนานั้น มีคู่แข่งไม่มาก และราคาที่ดินที่ได้มาก็มีการล็อกราคาย้อนหลังไว้แล้ว 1 ปี โดยปัจจุบันทำเลบางเทา ราคาที่ดินอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านบาท/ไร่ โดยโครงการ ‘เพย์ลา ภูเก็ต บางเทา’ ถูกออกแบบภายใต้แนวคิดการสร้างชุมชนที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี มุ่งเน้นที่จะส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยได้หยุดพักและใช้ชีวิตในทุกช่วงเวลาอย่างเต็มที่ ด้วยการออกแบบอย่างงดงามที่สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ชายฝั่งอันดามัน โครงการนี้จึงเหมาะกับผู้ซื้อทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่แสวงหาความสง่างามและการใช้ชีวิตที่กลมกลืนกับธรรมชาติ ทั้งนี้ เกาะภูเก็ตซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องความงามตามธรรมชาติ มรดกทางวัฒนธรรมอันมีค่า และสิ่งอำนวยความสะดวกอันทันสมัย ยังคงความเป็นหนึ่งในด้านสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนชั้นนำของโลก อีกทั้งความน่าสนใจของเกาะจะยิ่งเพิ่มขึ้นจากการพัฒนาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในอนาคต ซึ่งรวมถึงการขยายสนามบินนานาชาติภูเก็ตเฟส 2 และโครงการทางด่วนกะทู้-ป่าตอง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพของเกาะภูเก็ต เราจึงมั่นใจในการทุ่มเททรัพยากรอย่างเต็มที่เพื่อพัฒนาสถาปัตยกรรมของอาคาร การเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง และการสร้างพื้นที่ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้จริง เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการอยู่อาศัยแบบโลว์เดนซิตีระดับลักชัวรี

นายฐิติวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีแผนพัฒนาโรงแรมแบรนด์ระดับบน รูปแบบ “ลักชัวรี ไลฟ์สไตล์” และพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาพื้นที่แบบผสมผสาน บริหารโดยเชนระดับอินเตอร์เนชันแนล โดยจะตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาดประมาณ 2 ไร่ (3,200 ตารางเมตร) บริเวณย่านนาใต้ จ.พังงา เพื่อรองรับการเติบโตของพื้นที่ดังกล่าวและสนามบินพังงา หรือ สนามบินอันดามัน ที่จะเปิดขึ้นในอนาคต โดยจะมีทั้งหมด 170 ห้องพัก คาดว่าราคาจะอยู่ที่ประมาณ 14,000 บาทขึ้นไป/คืน มูลค่าโครงการประมาณ 1,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบ และจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในกลางปี 2568

โครงการนี้อาจจะเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตร ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจาอยู่ 2 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจอสังหาฯนอกตลาดหลักทรัพย์ฯที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการทั้งในกทม.และภูเก็ต ซึ่งการร่วมทุนพัฒนาของเราจะเน้นกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาฯด้วยกันที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพราะมีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการ มีความเข้าใจในการทำธุรกิจ ทำให้การทำงานร่วมกันได้ง่ายกว่ากลุ่มทุนที่มาจากธุรกิจอื่น”นายฐิติวัฒน์ กล่าว

 

นางสาวอาทิตยา เกษมลาวัณย์ หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ความเชื่อมั่นของผู้ซื้อในตลาดที่อยู่อาศัยของเกาะภูเก็ตที่แข็งแกร่งเป็นผลมาจากชื่อเสียงของเกาะในฐานะแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนระดับโลกและปัจจัยพื้นฐานอื่นๆ ที่มั่นคง ภาคการท่องเที่ยวของภูเก็ตยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นจาก 39% เป็น 61% และชาวไทยเพิ่มขึ้นจาก 24 % เป็น 39% อีกทั้งโครงการพัฒนาสนามบินภูเก็ต เฟสที่ 2 คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปี 2563 รองรับนักท่องเที่ยวได้ 18 ล้านคน/ปี ปัจจุบันมีรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 360,174 ล้านบาท ส่วนท่าอากาศยานนานาชาติอันดามัน(พังงา) คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณปี 2574 รองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 22.5 ล้านคน/ปี อีกทั้งมีการสร้างทางด่วนใหม่เชื่อมต่อ กระทู้-หาดป่าตอง และภูเก็ตยังมีโรงเรียนนานาชาติที่มาก ซึ่งบ่งบอกถึงภาพรวมเศรษฐกิจที่มีการเติบโตและมีศักยภาพ ส่งผลให้ชาวต่างชาติและคนไทย ส่งบุตร-หลานเข้าเรียนในโรงเรียนนานาชาติในภูเก็ตเป็นจำนวนมาก โดยในปี 2562 ที่ผ่านมา มีโรงเรียนนานาชาติในภูเก็ตทั้งสิ้น 11 แห่ง ปัจจุบันมีมากถึง 16 แห่ง  สำหรับ 5 อันดับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวในจ.ภูเก็ต ปี 2567 มากสุดได้แก่ รัสเซีย,จีน,อินเดีย,คาซัคสถานและเยอรมนี

อีกทั้งพบว่า ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ปี 2567 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าเกาะภูเก็ตเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 42 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่อัตราการเข้าพักโรงแรม ณ ครึ่งปีแรกของปี 2567 อยู่ที่ร้อยละ 71.5 ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบ 5 ปี ด้วยเหตุนี้ ตลาดบ้านพักตากอากาศจึงมีการเติบโตที่สูง โดยมียอดขายของทั้งปี 2566 เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 150 เมื่อเทียบกับปี 2565 ถือว่าเป็นสถิติยอดขายสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเกาะภูเก็ต ทั้งนี้เมื่อเทียบยอดขายครึ่งปีแรกของปี 2567 กับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่ามียอดขายที่ทุบสถิติสูงขึ้นไปอีก โดยเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 142 ผลการดำเนินงานที่โดดเด่นนี้ ซึ่งมีสาเหตุมาจากอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าที่แข็งแกร่งในอดีต อัตราการเข้าพักโรงแรมที่สูง และมูลค่าทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้ส่งเสริมให้เกาะภูเก็ตมีชื่อเสียงในฐานะจุดหมายของการลงทุนเพื่อความมั่งคั่ง

 

“ด้วยทำเลที่ยอดเยี่ยม การออกแบบที่ล้ำสมัย และแนวคิดที่อยู่อาศัยแบบโลว์เดนซิตี ซีบีอาร์อีจึงมั่นใจว่าโครงการ ‘เพย์ลา ภูเก็ต บางเทา’จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการอยู่อาศัยส่วนตัวหรือการลงทุน ด้วยราคาช่วงเปิดตัวที่น่าสนใจในตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เราคาดว่าโครงการนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าของเรา เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับบริษัท แค๊ปสโตน แอสเสท ซึ่งมีวิสัยทัศน์และประสบการณ์ที่โดดเด่นในกลุ่มตลาดระดับลักชัวรี เป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาและส่งมอบโครงการที่ยอดเยี่ยม” นางสาวอาทิตยา กล่าวในที่สุด

 

 

You can share this post!