พราว เรียล เอสเตทฯ พลิกโฉมวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ด้วยแนวคิด "ALL IS WELL" มุ่งมั่นสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ทุกมิติของชีวิตเพื่อชีวิตที่ดีและยั่งยืน สัมผัสประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือระดับผ่านการออกแบบมาตรฐานระดับโลกที่ใส่ใจสุขภาพของผู้อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันสำหรับทุกการพักผ่อน การบริการพิเศษสำหรับผู้อยู่อาศัยทุกโครงการ สร้างชุมชนที่อบอุ่น และไลฟ์สไตล์ที่เป็นมิตรต่อโลก แย้มแผนปี 68 จ่อผุด 3 โครงการใหม่ บน 3 ทำเล มูลค่ารวม 9,200 ล้านบาท วางเป้ารายได้แตะ 10,000 ล้านบาท เติบโตอย่างก้าวกระโดด ย้ำพันธกิจ ESG ปรับโครงการสร้างการดำเนินงานสู่ความยั่งยืน วางเป้า Net Zero ภายในปี 2593 พร้อมพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนอย่างต่อเนื่องและเพิ่มศักยภาพธุรกิจเข้าเกณฑ์ของกองทุน THAI ESG ในอนาคต
นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD เปิดเผยว่า จากการดำเนินงานตลอดมาภายใต้ DNA ของพราวที่ถ่ายทอดสู่การสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี่ที่ตอบโจทย์ด้านความเป็นอยู่ที่ดี ไม่เพียงทำเลที่ตั้งระดับ Rare Location และการออกแบบอันงดงาม แต่เป็นองค์ประกอบอันครบครันเพื่อการอยู่อาศัย อาทิ การบริการเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี การดูแลในระยะยาว และความยั่งยืนที่ทำให้สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติและบริบทโดยรอบได้อย่างดีเหล่านี้คือสิ่งสำคัญที่ลูกค้าของพราวให้คุณค่าและตอบรับอย่างดีเสมอมา ทำให้พราว เรียล เอสเตท ประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ สอดคล้องกับภาพรวมตลาดโลกที่สะท้อนแนวโน้มด้านการให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยข้อมูลจาก Global Wellness Institute ระบุว่า ธุรกิจด้านสุขภาพทั่วโลกเติบโตถึง 7.3% ต่อปี และคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 8.99 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 313 ล้านล้านบาท โดยกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มเติบโตสูงที่สุดในปี 2566-2571
ขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อสุขภาพในไทยเองเติบโต 10% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยที่เปลี่ยนแปลงไปเช่นกันซึ่งจะสร้างโอกาสอีกมากมายสำหรับผู้ประกอบการในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ จากนี้ไป PROUD จึงมุ่งสู่ Well-being Developer สร้างโครงการที่อยู่อาศัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี เพื่อรองรับเทรนด์การเติบโตนี้
นางสาวพราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD กล่าวว่า PROUD มุ่งมั่นยกระดับธุรกิจผ่านการสร้างเอกลักษณ์และความแตกต่างให้กับอสังหาฯไทยในด้าน well-being and sustainability ด้วยแนวคิดเพื่อชีวิตดีที่ยั่งยืน “ALL IS WELL” เสริมความชัดเจนของรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากกว่า (More Than Just Living) ที่ PROUD มุ่งมั่นสร้างสรรค์มาตลอด โดยในปี 2568 บริษัทพร้อมเดินหน้ากลยุทธ์สำคัญในการพัฒนาที่อยู่อาศัยในฐานะ Well-being Developer ผ่าน 5 องค์ประกอบเพื่อชีวิตดีที่ยั่งยืน ได้แก่
-WELL-CRAFTED DESIGN: การออกแบบเพื่อสุขภาวะและความปลอดภัยของทุกชีวิต
-WELL-LIVING AMENITIES: สิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการอยู่อาศัยและพักผ่อนกายใจ
-WELL-CURATED SERVICES: บริการพิเศษและสิทธิประโยชน์ที่พร้อมดูแลบ้านคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย
-WELL COMMUNITY: สังคมที่อบอุ่นและน่าอยู่ผ่านการบริหารโครงการและกิจกรรมมากมาย เพื่อสานต่อการดูแลในระยะยาว
-WELL SUSTAINABILITY: การอยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการออกแบบเพื่อทุกไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืน
ทั้งนี้ PROUD จัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยที่ยั่งยืน โดยร่วมมือกับหน่วยงานชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ เช่น เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ และ Spacely AI เพื่อพัฒนาโครงการที่ได้มาตรฐานระดับโลก พร้อมเดินหน้ายกระดับมาตรฐานอาคารไทยสู่ระดับโลกด้วย Fitwel มาตรฐานอาคารเพื่อสุขภาวะที่ดีและ LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) มาตรฐานอาคารเขียวเพื่อความเป็นผู้นำด้านพลังงานและ สิ่งแวดล้อม ซึ่งได้มีการนำมาตรฐาน FITWEL มาพัฒนาคอนโดมิเนียมและเดินหน้ารับรองในทุกโครงการเพื่อการสร้างรากฐานที่ดีและการดูแลในระยะยาวสำหรับผู้อยู่อาศัย โดยโครงการ InterContinental Residences Hua Hin ที่ได้รับรองมาตรฐาน Fitwel Built Certification ในประเภท Multifamily Residential เป็นแห่งแรกในไทย และโครงการ Vehha Hua Hin ได้รับการรับรอง Fitwel Design Certification เป็นที่เรียบร้อย
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2568 นั้น จะสานต่อการออกแบบที่อยู่อาศัยและบริการภายใต้แนวคิด ภายใต้แนวคิด “ALL IS WELL” เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งหมด 3 โครงการ มูลค่ารวม 9,200 ล้านบาท บนพื้นที่ 3 ทำเลศักยภาพ คือ
1.บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี บริเวณถนนหอการค้าไทย จ.นนทบุรี มูลค่าประมาณ 4,050 ล้านบาท ซึ่งเป็นการซื้อที่ดิน จำนวน 79 ไร่ มาจากบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด(มหาชน) หรือ PF เมื่อต้นปี 2567 ที่ผ่านมา โดยจะเปิดขายประมาณ ไตรมาส 3/2568 จำนวนประมาณ 100 กว่ายูนิต และสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ในไตรมาส 4/2568
2.คอนโดฯไฮไรส์ บริเวณย่านหัวหิน รัศมีไม่ไกลจากโครงการ “เวหา หัวหิน” (VEHHA Hua Hin) มูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยจะเปิดการขายในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 และสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ในปี 2571
3.คอนโดฯโลว์ไรส์ ย่านกมลา จ.ภูเก็ต มูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการซื้อที่ดินแปลงใหม่มาเมื่อเร็วๆนี้ คาดว่าจะเปิดการขายในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 ซี่งอาจจะเป็นการเปิดขายก่อน 2 โครงการแรก เนื่องจากตลาดภูเก็ตหลังวิกฤติโควิด-19 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวและลงทุนซื้อที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก เนื่องจากอัตราการเติบโตของ GDP ในภูเก็ตมีสูงถึง 10% จากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ดังนั้นการเปิดโครงการดังกล่าว คาดว่าจะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติได้เป็นอย่างดี ความคืบหน้าขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบ จึงยังใม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
นายพสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD กล่าวว่า PROUD มีพัฒนาการที่ดีต่อเนื่อง จากการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี บนทำเลที่มีศักยภาพ เปิดโครงการไม่มากแต่เน้นการออกแบบและบริการที่ดีที่สุด ส่งผลให้ฐานะการเงิน และมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ประสบความสำเร็จเข้าไปทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) สะท้อนถึงศักยภาพการเติบโตของบริษัท และความมั่นใจจากลูกค้ากลุ่มเรียลดีมานด์ จากการตอบรับที่ดีในทุกโครงการของ PROUD ส่งผลให้ ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่าประมาณ 10,899 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ ตั้งแต่ ปี 2567-2569 ซึ่งการเติบโตที่แข็งแกร่งสะท้อนภาพที่ชัดเจนว่าบริษัทสามารถเติบโตได้ในสภาวะตลาดอสังหาฯชะลอตัว
อย่างไรก็ตาม PROUD มุ่งมั่นรักษาระดับผลประกอบการให้เติบโต จากการพัฒนาโครงการพร้อมขยายไปบนทำเลที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง และทำเลใหม่ที่ภูเก็ตในปีหน้า โดยตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2568 ไว้ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 6 เท่าจากปี 2566 พร้อมตั้งงบประมาณ 3,000 ล้านบาทไว้สำหรับจัดหาที่ดินพัฒนาโครงการเพิ่มเติม
นอกจากนี้ บริษัทให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) เพื่อสร้างความมั่นคงและเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว สอดคล้องกับบโยบายด้านการพัฒนาความยั่งยืนของสหประชาชาติ โดยมีเป้าหมายการลดการชดเชยคาร์บอนจนเป็นกลาง ( Carbon Neutrality) ภายในปี 2040 (พ.ศ.2583) เป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 (พ.ศ.2593)พร้อมวางแผนการพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนผ่านโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อชีวิตดีที่ยั่งยืน (ALL IS WELL) สำหรับทุกชีวิตอย่างแท้จริง และพัฒนาบริษัทให้มีศักยภาพเข้าเกณฑ์ของกองทุน THAI ESG ในอนาคต