บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญส่งท้ายปี 2567 ด้วยการร่วมทุนกับ บริษัท มิตซุย ฟุโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของญี่ปุ่น จัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อร่วมพัฒนา 2 โครงการแนวราบ ได้แก่ ”บุราสิริ จตุโชติ“ ตั้งอยู่ใน Community จตุโชติ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา บนพื้นที่กว่า 184 ไร่ โดย ”บุราสิริ จตุโชติ“ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 49 – 3 – 9.1 ไร่ ราคาเริ่มต้นที่ 14 - 25 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 2,080 ล้านบาท และนาราสิริ บางนา กม.10 หนึ่งในแบรนด์สำคัญใน Sansiri 10 East ลักชัวรีคอมมูนิตี้แห่งใหม่กว่า 165 ไร่ ติดถนนบางนา-ตราด กม.10 ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 38 – 2 – 96.2 ไร่ ราคาเริ่มต้นที่ 55 - 120 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 4,100 ล้านบาท
ไฮไลท์สำคัญ คือทั้ง 2 โครงการตั้งอยู่ใน Sansiri Community (10 East บางนา กม.10 และจตุโชติ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา) ทั้งนี้ แสนสิริ มุ่งสร้างโมเดล Sansiri Community ในแต่ละทำเลที่แสนสิริเข้าไปพัฒนาโครงการ และยกระดับให้เป็นสังคมอยู่อาศัยสมบูรณ์ อาทิ มีโครงการระดับมาสเตอร์พีชออกแบบเพื่อความยั่งยืนเติมเต็มทุกกิจกรรมครอบครัว, การสร้างสังคมคุณภาพท่ามกลางสิ่งแวดล้อมคุณภาพ, ทำเลที่ตั้งเดินทางสะดวก รวมถึงการบริการหลังการขายที่ยังคงมุ่งเน้นให้โครงการยังคงงดงาม Timeless เสมือนวันแรกที่เข้าอยู่ เป็นสินทรัพย์ที่สามารถส่งต่อเป็นมรดกสู่รุ่นลูกได้อย่างภาคภูมิซึ่งมั่นใจการร่วมทุนทางธุรกิจในครั้งนี้ จะได้มีโอกาสร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน ต่อยอดพัฒนาโปรดักต์ใหม่ๆ สร้างมาตรฐานการพัฒนาโครงการระดับลักซ์ชูรีสู่ Global Brand ร่วมกัน โดยคาดว่าทั้ง 2 โครงการ จะเปิดตัวในปี 2568
ด้าน บริษัท มิตซุย ฟุโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์) จำกัด(MFADT) เป็นบริษัทในเครือของมิตซุย ฟุโดซัง จำกัด ในประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อปี 2560 รับผิดชอบกิจกรรมการลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของมิตซุย ฟุโดซัน ในประเทศไทย ทั้งนี้ กลุ่มมิตซุย ฟุโดซังได้พัฒนาธุรกิจในเมืองต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และประเทศตะวันตกอื่นๆ รวมถึงในจีน ไต้หวัน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และออสเตรเลีย สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ INNOVATION 2030 ที่กำหนดขึ้นเมื่อต้นปีนี้ ที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจในต่างประเทศ ตลอดจนพัฒนาและยกระดับการดำเนินงานเพื่อมุ่งสู่การขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ
แสนสิริ ขอขอบคุณ กลุ่มมิตซุย ฟุโดซัง ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของญี่ปุ่นที่มีความเชี่ยวชาญในหลายด้าน ที่เล็งเห็นถึงศักยภาพและโอกาสในการเติบโตของอสังหาฯ ไทยในกลุ่มลักชัวรี เนื่องจากในตลาดนี้เป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ ซึ่งแสนสิริเป็นหนึ่งในผู้นำตลาด หลายโครงการสามารถ Sold Out ในเวลาอันรวดเร็ว จากประสบการณ์การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 40 ปี และในฐานะแบรนด์ Taste-Maker ที่เข้าใจในทุกรายละเอียดของการอยู่อาศัยสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือระดับ
โดยแผนความร่วมมือกับมิตซุย ฟุโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์) ครั้งนี้ เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของแสนสิริตามแผนแผนธุรกิจ สู่ปีที่ 40 ”NAVIGATING THE FUTURE: RESILIENT GROWTH” เพื่อขับเคลื่อนองค์กร ควบคู่กับความพร้อมรับมือทุกสถานการณ์และรักษาอันดับความเป็นผู้นำในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย ที่พร้อมขยายโอกาสในการลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ๆ เพื่อพัฒนาโครงการร่วมกัน ล่าสุด ได้ประกาศผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือน (สิ้นสุด ก.ย. 67) มีรายได้รวมมาเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มอสังหาฯ อยู่ที่ 28,877 ล้านบาท ซึ่งรายได้หลักมาจากโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรีและซูเปอร์ลักชัวรีที่แสนสิริเป็นเจ้าตลาด และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,009 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าเปิดตัวอีก 15 โครงการ มูลค่า 15,000 ล้านบาท