news-details
Business

EVAT x TAJA เช็คลิสต์ความพร้อมการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า หวังสร้างเเรงขับเคลื่อนด้านความรู้

สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย จับมือ สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์เเละรถจักรยานยนต์ไทย จัดงานเสวนา “เช็คลิสต์ความพร้อมการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า” หวังสร้างเเรงขับเคลื่อนด้านความรู้

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) ร่วมกับ สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์เเละรถจักรยานยนต์ไทย (TAJA) นำโดย นายกฤษฎา อุตตโมทย์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย เเละนายสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์เเละรถจักรยานยนต์ไทย จัดงานเสวนา “เช็คลิสต์ความพร้อมการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า” ภายในงาน Motor Expo ห้อง Jupiter Function Rooms 4-5

เปิดงานเสวนาโดย นายกฤษฎา อุตตโมทย์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย กล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทยมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นกว่า 600% หรือราว 76,000 คัน คิดเป็น 10% ของยอดจดทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั้งหมดของประเทศในปีที่ผ่านมา การเติบโตนี้เป็นผลมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคและการสนับสนุนเชิงนโยบายจากภาครัฐ ซึ่งสามารถสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของรัฐบาลที่มุ่งมั่นในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าให้เป็นเครื่องมือหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ถึงแม้ว่าในปีนี้ ผลพวงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ส่งผลให้การผลิตและการใช้รถยนต์ในประเทศลดลง แต่สัดส่วนของรถยนต์ไฟฟ้ายังคงเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราวๆ 13-14% ของยอดจดทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในปีนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความต้องการของผู้ใช้ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น และความท้าทายด้านการพัฒนาแรงงานที่มีทักษะเพื่อรองรับระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต”

ถัดมาเป็นการบรรยายจาก นายอภิสิทธิ์ ณัฐวรวโรตม์ สถาปนิกระดับ 8 ทีมพัฒนาธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้แทนจากทีม EGAT EV Business Solutions ร่วมให้ข้อมูลว่า ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า BEV ในประเทศไทย มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี กฟผ. ในฐานะองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาพื้นฐานโครงสร้างของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ของประเทศไทย จึงมุ่งเน้นสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้ EV หรือ ผู้ที่กำลังตัดสินใจเลือกใช้งาน EV ผ่านการดำเนินงานภายใต้ EGAT EV Business Solutions ทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีสถานีชาร์จ “EleX by EGAT” ระบบบริหารจัดการเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้า “BackEN EV” และ EV Application “EleXA” รวมถึง การเชื่อมโยงโครงข่ายแอปพลิเคชันการจัดการสถานีชาร์จ EV ซึ่งปัจจุบันมีการแชร์และแสดงผลข้อมูลร่วมกัน ทั้งสถานีชาร์จของ กฟผ. MEA PEA PTTOR EA ReverSharger และ GWM เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าทั่วประเทศด้วยการถือเพียงแผนที่เดียวก็สามารถเห็นสถานะปัจจุบันของทุกสถานีชาร์จดังกล่าวได้ ทำให้เกิดประสบการณ์ที่ดีในการเดินทางด้วยแบตเตอรี่ ที่ไปถึงจุดหมายปลายทางได้ทุกที่ ทุกจังหวัด ทั่วประเทศไทย

เข้าสู่เสวนาช่วงไฮไลท์ในหัวข้อ "เช็คลิสต์ความพร้อมการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า" เริ่มโดย นายสุรมิส เจริญงาม อุปนายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์เเละรถจักรยานยนต์ไทย (TAJA) “ความคุ้มค่า นโยบาย EV3 ต่อเนื่อง EV3.5 มีส่วนกระตุ้นการเปลี่ยนมาใช้รถยานยนต์ไฟฟ้าเป็นอย่างมาก จุดชาร์จกับสถานีชาร์จถ้าย้อนกลับไป 2 ปีที่เเล้วมีส่วนสำคัญ ที่ทำให้คนที่สนใจ บางส่วนชะลอการตัดสินใจ แต่ถึงปัจจุบันสัดส่วนจำนวนจุดชาร์จไฟ กับจำนวนรถไฟฟ้ามีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ที่พร้อมและจำเป็นต้องเปลี่ยนรถคันใหม่ มีการตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มที่มีรูปแบบการใช้รถครบตามเช็คลิสต์ ในงานเสวนาในครั้งนี้ น่าจะทำให้ตัดสินใจ ได้ง่ายมากขึ้น”

ต่อด้วย ดร.มานพ มาสมทบ ทีมวิจัยระบบกักเก็บพลังงาน ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) (ENTEC) “ในส่วนของล้อ เป็นส่วนสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า ล้อโดยปกติรถสันดาบจะสึกช้ากว่าล้อในรถยนต์ไฟฟ้า ฉะนั้นการเช็คสภาพล้อก่อนออกเดินทาง เป็นสิ่งสำคัญของผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า โดยรวมไปถึงการเตรียมความพร้อมของพื้นที่บ้าน ที่จะต้องรับน้ำหนักรถ ที่มาพร้อมเเบตด้วย ในส่วนของความกังวลใจในประเด็นถ้ารถจมน้ำหรือน้ำท่วมแบตเตอรี่จะกระทบอะไรไหม จริงๆเเล้วเเบตถูกออกเเบบมา ให้กันน้ำได้อยู่เเล้ว”

นายตติยะ หลิมวิจิตร กรรมการ และเลขานุการ คณะทำงานฝ่ายข้อมูลการสื่อสาร และประชาสัมพันธ์ สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) กล่าวว่า “ในส่วนของอุตสาหกรรมอะไหล่ คนที่ตัดสินใจซื้อรถ 1 คัน ไม่ได้มองว่าซ่อมเเค่ศูนย์ เเต่เมื่อหมด warranty เเล้วเเน่นอนว่าก็จะต้องซ่อมข้างนอก ฉะนั้นในการให้ความรู้ อบรมช่างนอกศูนย์ มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการอบรม เพราะถ้ามีรถยนต์ไฟฟ้าเเล้วศูนย์ข้างนอกซ่อมไม่ได้มันจะเป็น pain point ที่ยิ่งใหญ่อย่างมาก ปัจจุบันสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ได้มีการ จับมือกับทั้งภาครัฐเเละเอกชน ในการจัดงานอบรมความรู้ช่างซ่อมบำรุง ไม่ว่านะเป็นการจับมือกับค่าย MG เเละวิทยาลัยเทคนิคเฉิงตู”

รศ.ดร.ยศพงษ์ ลออนวล ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนาความยั่งยืน (MOVE) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และนายกกิตติมศักดิ์สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย กล่าวว่า “ในปัจจุบันตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามีการเเข่งขันกันสูง ถ้าซื้อวันนี้จะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าการใช้รถยนต์สันดาบเเน่นอน เเต่รถยนต์ไฟฟ้าก็มีโอกาสที่จะจำหน่ายในราคาที่ถูกลงได้อีกเพราะเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามา เรามั่นใจยี่ห้อที่เราต้องการซื้อตอนนี้ ในโลกเราพูดถึงการชาร์จไฟเเบตเตอรี่ 800 โวลต์ เเล้ว ไม่ใช่เเค่ 400 โวลต์ กล่าวคือ ต้องมีความรู้ในเรื่องการใช้ มันมีทั้งข้อดีเเละข้อเสีย ในส่วนของผู้ใช้ก็ต้องให้ข้อมูลผู้ซื้อให้ครบถ้วน ถ้าถามผมคือ ตัดสินใจซื้อเเล้วต้องใช้ยาวๆเเละยอมรับในเรื่องของราคาที่อาจจะถูกลง”

นายกฤษฎา ธีรศุภลักษณ์ KOL ด้านยานยนต์ไฟฟ้า ช่อง Welldone Guarantee กล่าวว่า “เทคโนโลยี กับ อุตสาหกรรมรถยนต์ มันถูกรวมอยู่ด้วยกันเเล้วกลายเป็น อีวี ฉะนั้นมันเป็นเรื่องใกล้ตัวเรามากๆ การที่จะทำให้คนเปลี่ยนรถอีวีมาเป็นคันใหม่ ส่วนตัวผมคิดว่า ผู้ใช้ปัจจุบันอยากขายคันเดิม เเล้วซื้อคันใหม่ ฉะนั้นตลาดมือสองเป็นตัวขับเคลื่อนให้ตลาดมือหนึ่งเดินหน้าไปต่อ เพราะคนอยากขายสินทรัพย์ที่มีเอามาเป็นทุน เพราะฉะนั้นอุตสาหกรรมรถยนต์ตลาดมือหนึ่งยังไปต่อได้ เเต่ในภาพรวมอาจไปเเบบไม่เต็มที่ในปัจจุบันเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ทำให้ตลาดมือหนึ่งชะลอตัว”

ติดตามงานเสวนาที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้าได้กับทางสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย นอกจากนี้ทางสมาคมฯ ยังมีกิจกรรม ของทางสมาคมที่น่าสนใจให้บุคคลทั่วไปได้เพิ่มองค์ความรู้ ในด้านการซ่อมบำรุงยานยนต์ไฟฟ้า ที่ทางสมาคมฯ ร่วมกับ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จํากัด เเละมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี กำลังเปิดรับสมัครบุคคลที่สนใจเข้าร่วมงานอบรมช่างซ่อมบำรุงยานยนต์ไฟฟ้า ที่จะมีขึ้น วันที่ 16 - 20 ธันวาคม พ.ศ. 2567 นี้

You can share this post!