เงินบาทเปิดเช้านี้ 34.10 บาท/ดอลลาร์ "แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย" กรุงไทยคาดสัปดาห์นี้ 33.75-34.50 บาท/ดอลลาร์ ชี้ตลาดการเงินเสี่ยงผันผวนสูง ท่ามกลางผลการประชุมบรรดาธนาคารกลางหลัก และรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญประเทศเศรษฐกิจหลัก
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.10 บาท/ดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย”จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 34.14 บาท/ดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ Sideways (แกว่งตัวในกรอบ 34.06-34.18 บาทต่อดอลลาร์) แม้ว่าเงินบาทจะเผชิญแรงกดดันจากการปรับตัวลดลงต่อเนื่องของราคาทองคำ (XAUUSD) ทว่า แนวโน้มการเคลื่อนไหวอ่อนค่าลงเล็กน้อยของเงินดอลลาร์ ในลักษณะ Sideways Down รวมถึงแรงขายเงินดอลลาร์ในช่วงใกล้โซนแนวต้าน 34.10-34.20 บาทต่อดอลลาร์ ก็มีส่วนช่วยชะลอการอ่อนค่าลงของเงินบาทได้บ้าง อีกทั้งผู้เล่นในตลาดอาจยังไม่รีบปรับสถานะถือครองสินทรัพย์ที่ชัดเจน จนกว่าจะรับรู้ผลการประชุมบรรดาธนาคารกลาง ทั้ง เฟด, BOE, BOJ และธนาคารแห่งประเทศไทย ในสัปดาห์นี้
สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลงในช่วงกลางสัปดาห์ ตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ที่ได้อานิสงส์จากการอ่อนค่าของบรรดาสกุลเงินหลัก โดยเฉพาะเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) นอกจากนี้ เงินบาทยังถูกกดดันเพิ่มเติมจากการปรับตัวลงแรงของราคาทองคำ และแรงขายสินทรัพย์ไทยจากบรรดานักลงทุนต่างชาติ ทว่าเงินบาทก็ยังพอได้แรงหนุนบ้างจากแรงขายเงินดอลลาร์จากบรรดาผู้เล่นในตลาด อย่าง กลุ่มผู้ส่งออก
สำหรับสัปดาห์นี้ เราประเมินว่า ตลาดการเงินเสี่ยงผันผวนสูง ท่ามกลางผลการประชุมบรรดาธนาคารกลางหลัก โดยเฉพาะเฟด BOE และ BOJ อีกทั้งผู้เล่นในตลาดจะรับรู้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก อย่าง รายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ รวมถึงรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของจีน
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทผันผวนสูงในกรอบ Sideways ทว่าทิศทางเงินบาทจะขึ้นกับการเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์ รวมถึงราคาทองคำ ที่จะขึ้นกับผลการประชุมเฟดและบรรดาธนาคารกลางหลัก ส่วนผลการประชุม กนง. อาจไม่ได้กระทบเงินบาทมากนัก ทั้งนี้ ควรจับตาทิศทางเงินหยวนจีน (CNY) ซึ่งจะขึ้นกับรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของจีน ส่วนฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติอาจยังคงกดดันเงินบาทได้ เนื่องจากเราคาดว่า บรรดานักลงทุนต่างชาติทยอยขายสินทรัพย์ไทยได้บ้าง
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า ทิศทางเงินดอลลาร์จะขึ้นกับ คาดการณ์ดอกเบี้ยใหม่ (Dot Plot) ของเฟด รวมถึงผลการประชุม BOJ และ BOE ซึ่งหาก BOJ ส่งสัญญาณพร้อมขึ้นดอกเบี้ยที่ชัดเจน อาจหนุนเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) แข็งค่าขึ้นบ้าง กดดันเงินดอลลาร์ให้ย่อตัวลง
เราคงคำแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรเลือกใช้เครื่องมือในการปิดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น ท่ามกลางความผันผวนของเงินบาท รวมถึงสกุลเงินอื่นๆ ที่สูงขึ้นกว่าช่วงอดีตที่ผ่านมาพอสมควร โดยผู้เล่นในตลาดอาจเลือกใช้เครื่องมือเพิ่มเติม อาทิ Options หรือ Local Currency ควบคู่ไปกับการปิดความเสี่ยงผ่านการทำสัญญา Forward
มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 33.75-34.50 บาท/ดอลลาร์
ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.00-34.30 บาท/ดอลลาร์ (ระวังความผันผวนในช่วงตลาดรับรู้รายงานดัชนี PMI ของประเทศเศรษฐกิจหลัก และรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญรายเดือนของจีน)