แอสเสท เวิรด์ คอร์ป สร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ในวงการการท่องเที่ยว-บันเทิง ประกาศความร่วมมือกับ NEON ผู้นำในการสร้างประสบการณ์แบบอิมเมอร์ซีฟและเครื่องเล่นระดับโลก และ Universal Live Events & Location Based Entertainment เนรมิตพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร ใน “เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น” เปิดตัว“Jurassic World: The Experience”นอกสวนสนุกครั้งแรกและใหญ่ที่สุดในโลก นำร่องเฟสแรกมูลค่า 1,400 ล้านบาท มากกว่าการลงทุนเอเชียทีคฯเมื่อกว่า 10 ปี ที่ลงทุนเพียง 1,100 ล้านบาท สร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่จุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์ สนับสนุนกรุงเทพมหานครสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและความบันเทิงระดับโลกด้วยการนำประสบการณ์ “Jurassic World: The Experience” สู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การผจญภัยอันน่าตื่นตาตื่นใจที่จะพาทุกคนย้อนกลับไปสัมผัสประสบการณ์แห่งยุคไดโนเสาร์รูปแบบใหม่ที่เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว หนึ่งในประสบการณ์การความบันเทิงแบบอิมเมอร์ซีฟที่ใหญ่สุดในโลก พร้อมเปิดบริการไตรมาส 2/68 คาดทั้ง 3 เฟสใช้เวลาพัฒนารวม 5 ปี ใช้งบลงทุนประมาณ 10,000 ล้านบาท
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ประสบความสำเร็จจาก DISNEY100 VILLAGE: ด้วยการนำตัวละครอันโด่งดังทั้งจาก Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars มาจัดงานแสดงพิเศษ เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา ล่าสุดพบว่า Jurassic World ของ Universal Pictures ได้ความนิยมไปทั่วโลก โดย Jurassic World 4 : Rebirth จะออกฉายในเดือนกรกฎาคม 2568 เป็นภาพยนตร์ที่มีฐานแฟนทุกวัยทั่วโลก AWC ถือโอกาสเลือก Jurassic World มาสร้างเป็นจุดหมายปลายทางแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่เอเชียทีค ด้วยการร่วมมือกับ NEON และ Universal Live Events & Location Based Entertainment โดยนำพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร ใน “เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น” เปิดตัว“Jurassic World: The Experience”นอกสวนสนุกครั้งแรก(นอกธีมพาร์ค) และใหญ่ที่สุดในโลก โดยจะมีทั้งหมด 3 เฟส โดยเฟสแรก จะเป็นการลงทุนบนพื้นที่ 6,000 ตารางเมตร คิดเป็นมูลค่าการลงทุนประมาณ 1,400 ล้านบาท มากกว่าการลงทุนเอเชียทีคฯเมื่อกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ที่ลงทุนเพียง 1,100 ล้านบาท (ปัจจุบันมีการลงทุนไปแล้วรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท ไม่รวม “Jurassic World: The Experience”)สร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่จุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์ สนับสนุนกรุงเทพมหานครสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและความบันเทิงระดับโลกด้วยการนำประสบการณ์ “Jurassic World: The Experience” สู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การผจญภัยอันน่าตื่นตาตื่นใจที่จะพาทุกคนย้อนกลับไปสัมผัสประสบการณ์แห่งยุคไดโนเสาร์รูปแบบใหม่ที่เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว หนึ่งในประสบการณ์การความบันเทิงแบบ “อิมเมอร์ซีฟ” ที่ใหญ่สุดในโลก พร้อมเปิดบริการไตรมาส 2/68 ส่วนราคาบัตรเข้าชมยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ นอกจากนี้บริษัทฯยังมีแผนที่จะพัฒนาโรงแรมธีมพาร์ค ในพื้นที่ 1 ใน 3 เฟสด้วย นอกจากนี้ AWC ยังมีแผนลงทุนพัฒนาอาคารสูง 100 ชั้น ซึ่งภายในอาคารดังกล่าวจะประกอบด้วยโรงแรมจำนวน 2 แบรนด์ ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้ และคาดว่าทั้ง 3 เฟส จะใช้ระยะเวลาในการลงทุนรวมประมาณ 5 ปี ด้วยงบลงทุนประมาณ 10,000 ล้านบาท
“เราต้องการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและความบันเทิงในการส่งมอบความสุข นวัตกรรม และคุณค่าที่ยั่งยืนสําหรับคนรุ่นต่อๆ ไป ความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการสร้างจุดหมายปลายทางที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ แต่ยังเป็นการส่งมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนโครงการ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น ริมสายน้ำเจ้าพระยา ใจกลางกรุงเทพฯ ด้วยพื้นที่การพัฒนารวมทั้งหมดกว่า 10,000 ตารางเมตร โดยมี Jurassic World: The Experience ครอบคลุมพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร บริเวณใกล้โกดัง 9 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมพาทุกคนดื่มด่ำไปกับยุคจูราสสิคอย่างใกล้ชิดในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เปิดประสบการณ์แห่งการผจญภัยครั้งใหม่ที่ท้าทายและน่าตื่นตาตื่นใจอย่างไม่รู้ลืม ซึ่งพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัยเข้าสู่การผจญภัยสุดตื่นเต้นที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแฟรนไชส์ภาพยนตร์ชื่อดัง ‘Jurassic World’ จาก Universal Pictures และ Amblin Entertainment ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ออกเดินทางเข้าสู่โลกแห่งวิทยาศาสตร์และการเรียนรู้ที่ผสานเข้ากับความบันเทิงคุณภาพสูงอย่างลงตัว โดย ‘Jurassic World: The Experience’ มีความพิเศษแตกต่างจากสวนสนุกทั่วไป เพราะนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับประสบการณ์แบบอิมเมอร์ซีฟและเครื่องเล่นระดับโลก รายล้อมไปด้วยไดโนเสาร์แอนิมาทรอนิกส์เสมือนจริง พร้อมบรรยากาศที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากฉากสำคัญในภาพยนตร์ ในระหว่างการเดินทางสำรวจความมหัศจรรย์ของเกาะ Isla Nublar ที่เต็มไปด้วยความลึกลับน่าตื่นเต้นและประสบการณ์อันน่าจดจำ”นางวัลลภา กล่าว
และเพื่อเติมเต็มความประทับใจให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เตรียมพบกับ Café & Restaurant แห่งใหม่ที่จะมอบบรรยากาศการรับประทานอาหารสุดพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “Jurassic World: The Experience” โดดเด่นด้วยการผสมผสานการเดินทางท่องโลกไดโนเสาร์แบบอิมเมอร์ซีฟเข้ากับเมนูรสเลิศที่ไม่เหมือนใคร อิ่มอร่อยได้ทุกเพศทุกวัย
ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้ เป็นการสนับสนุนวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ประเทศไทยในการเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก และเป็นศูนย์กลางของการจัดงานอีเว้นท์ ผ่านการมอบประสบการณ์ระดับเวิร์ดคลาส ซึ่งมีส่วนช่วยสนับสนุนการเติบโตให้กับการท่องเที่ยว สร้างงานในภาคอุตสาหกรรมการบริการ และกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับท้องถิ่นโดยรอบจากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวจากทั่วทั้งภูมิภาค
“AWC มุ่งมั่นในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ประเทศไทยในการเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก ที่ซึ่งการท่องเที่ยวและความยั่งยืนสามารถเติบโตไปด้วยกัน โดยความร่วมมือครั้งนี้ สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของ AWC ในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลกจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อ “สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า” ผ่านการสร้างจุดหมายปลายทางที่ผสมผสานแนวคิดด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน เข้ากับประสบการณ์ด้านความบันเทิงอย่างลงตัว”นางวัลลภา กล่าว
นางวัลลภา กล่าวเพิ่มเติมว่า AWC จะเป็นผู้สานการท่องเที่ยวและยั่งยืนในระดับโลก คาดว่าหลังเปิดให้บริการ “Jurassic World: The Experience”จะทำให้ Traffic เพิ่มขึ้นอีก 10-20% จากช่วงก่อนโควิด-19 ที่ในช่วงวันธรรมดา จะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 30,000 คน/วัน และในช่วงวันหยุด ประมาณ 50,000 คน/วัน จากปัจจุบันที่ Traffic กลับมาแล้วประมาณ 80% มีนักท่องเที่ยวประมาณ 35,000 คน/วัน โดยจีนยังเป็นนักท่องเที่ยวอันดับ 1 แม้ว่าจะยังไม่กลับมา 100% ก็ตาม
ส่วนธุรกิจโรงแรมของ AWC ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2567 พบว่ามีอัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวและรายได้ สูงถึง 3 เท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 ซึ่งนักท่องเที่ยวจะกระจายในหลากหลายประเทศ อาทิ จีน ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา อินเดีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง และเกาหลี เป็นต้น โดยในปี 2567 บริษัทได้วางเป้าหมายอัตราการเข้าพัก (OCC) ที่ระดับเกิน 70% เติบโตขึ้นจากปีก่อนที่มีอัตราการเข้าพักที่กว่า 60%
นายรอน ตัน ประธานกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม NEON กล่าวว่า NEON รู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมมือกับ Universal Destinations & Experiences และ AWC ในการนํา Jurassic World: The Experience มาสู่กรุงเทพมหานคร เมืองที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาจากประสบการณ์ในการจัดการแสดงที่ผู้คนให้ความสนใจจองบัตรกันอย่างรวดเร็วในเมืองต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งมั่นใจว่าความบันเทิงรูปแบบอิมเมอร์ซีฟในประเทศไทยครั้งนี้ จะเข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้สูงยิ่งขึ้น มอบประสบการณ์การผจญภัยใน “Jurassic World” ต้องขอขอบคุณพันธมิตรทุกท่านในการสนับสนุนให้วิสัยทัศน์อันยอดเยี่ยมนี้กลายเป็นจริง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวมากมายที่จะมาร่วมผจญภัยใน “Jurassic World: The Experience”ไปด้วยกัน
นายเจอรัลด์ เรนส์ รองผู้อำนวยการ Universal Live Events & Location Based Entertainment, Universal Destinations and Experiences กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้ร่วมกับ AWC และ NEON ในการนำประสบการณ์ Jurassic World: The Experience มาให้เกิดขึ้นจริงที่กรุงเทพฯ ที่พร้อมเปิดประตูต้อนรับผู้เข้าชมทุกท่านในปี 2568
Jurassic World: The Experience สอดคล้องกับพันธกิจของ AWC ในการนําแนวคิดด้านนวัตกรรมและความยั่งยืนมาสู่จุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์และความบันเทิงของประเทศไทย โครงการนี้เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ในการพัฒนาโครงการ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น ให้เป็นศูนย์กลางที่ผสานทั้งธุรกิจการค้าปลีก ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม รวมถึงความหลากหลายด้านอาหารและความบันเทิงเข้าไว้ด้วยกันในที่เดียว เพื่อส่งมอบประสบการณ์สุดพิเศษที่ส่งต่อแรงบันดาลใจ และ แต่งเติมจินตนาการที่ไม่รู้จบให้แก่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก