news-details
Business

แนวรับถัดไป 1,300 จุด

InnovestX มองหุ้นไทยยังมีโอกาสลงต่อ นโยบายกีดกันทางการค้าของรัฐบาล Trump 2.0 ยังกดดันบรรยากาศการลงทุน มองแนวรับ  1,307-1,300 จุด 

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้(3ก.พ.) คาด SET ได้รับปัจจัยลบเพิ่มจากข่าวลงทุนของ CPALL กดดันดัชนีไหลลงต่อเนื่อง สร้างสัญญาณลบ และเปิดด้าน Downside นอกจากนี้ นโยบายเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าของทรัมป์ต่อ แคนนาดา เม็กซิโก และจีน เมื่อ 1 ก.พ. สร้าง Sentiment ลบ ต่อ ด้านดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่า โดย SET มีแนวรับถัดไปที่ 1,307 และ 1,300 จุด ตามลำดับ ส่วนกรอบบนถูกจำกัดที่แนวต้าน 1,325-1,330 จุด


ประเด็นสำคัญ

 

• สศอ. เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ธ.ค. 2567 ที่ระดับ 90.18 หดตัว 2.11%YoY  ส่งผลให้ปี 2567 ดัชนี MPI ที่ 95.76 หดตัวเฉลี่ย 1.79% กดดันจากภาคยานยนต์, หนี้ครัวเรือนและต้นทุนพลังงานสูง, สินค้าต่างประเทศล้นตลาด และสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ • สศอ. เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ธ.ค. 2567 ที่ระดับ 90.18 หดตัว 2.11%YoY  ส่งผลให้ปี 2567 ดัชนี MPI ที่ 95.76 หดตัวเฉลี่ย 1.79% กดดันจากภาคยานยนต์, หนี้ครัวเรือนและต้นทุนพลังงานสูง, สินค้าต่างประเทศล้นตลาด และสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ 

• ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. โดยกำหนดให้เรียกภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% และ 10% สำหรับสินค้าจากจีน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันอังคารที่ 4 ก.พ.

• แคนาดาและจีนออกมาตอบโต้ต่อการเก็บภาษีนำเข้า แคนาดาตอบโต้โดยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ ที่ 25% เช่นกัน ส่วนจีนออกมาประณามรัฐบาล ปธน. ทรัมป์และเตรียมออกมาตรการตอบโต้เร็วๆ นี้ 

• กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เผยดัชนี PCE ธ.ค. 67 เพิ่มขึ้น 2.6%YoY และดัชนี Core PCE เพิ่มขึ้น 2.8%YoY เป็นไปตามที่ตลาดคาด 

• รมว. คมนาคมจะไม่ต่อมาตรการรถไฟฟ้า-รถเมล์ฟรีเพื่อลดฝุ่น PM2.5 และยืนยันนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายว่าจะจูงใจประชาชนใช้รถสาธารณะเพิ่มขึ้นได้ คาดจะเริ่มได้กับทุกสายในกลางปี 2568 

• ปลัดพลังงานเผยการใช้ไฟฟ้า 10M67 แตะ 181,206GW เพิ่มขึ้น 5.9% และเตรียมเสนอ ครม. ให้เห็นชอบการส่งเสริมการผลิตและใช้พลังงานทดแทน โดยเฉพาะ Solar Rooftop ผ่านการลดหย่อนภาษีนิติบุคคล มิเตอร์ละ 2 แสนบาท และหักภาษีอุปกรณ์ได้ 1.5 เท่า

• สนพ. เผยอยู่ระหว่างปรับปรุงแผน PDP2024 (ปี 2567-2580) ซึ่งจะมีการสนับสนุนการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR) จำนวน 600MW ไว้ปลายแผน ขณะที่ กฟผ. อยู่ระหว่างการศึกษาและคาดว่าจะมีต้นทุนที่ถูกลงในอนาคต

 

กลยุทธ์การลงทุน


ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์ โดยมีแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1350 จุด โดยแม้ภาพการลงทุนในตลาดต่างประเทศจะได้รับผลบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนและผลประกอบการนอกกลุ่มการเงินของ บจ. สหรัฐที่แข็งแกร่ง รวมไปถึงแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าจากการปรับลดดอกเบี้ยที่ค่อยเป็นค่อยไป แต่ในประเทศยังไร้ปัจจัยใหม่มาช่วยหนุนบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นไทย ทั้งนี้สถานการณ์การส่งออกไทยน่าจะมีความเสี่ยงมากขึ้นจากนโยบายการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐและเงินเฟ้อที่ต่ำ ทำให้เศรษฐกิจไทยยังไม่โดดเด่นมากนัก ส่งผลให้ผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทยยัง Underperform ตลาดหุ้นทั่วโลก ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”


Daily top picks

ADVANC: มองเป็นหุ้น Defensive ซึ่งกำไรเติบโตได้ต่อเนื่อง 4Q67 คาดกำไรปกติ 8.7 พันลบ. เติบโต 23%YoY และ 3%QoQ หนุนจากรายได้การให้บริการหลักที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องและการควบคุมต้นทุนที่ดี ส่งผลให้ปี 2567 คาดกำไรปกติ 3.43 หมื่นลบ. เติบโต 20%YoY (สูงกว่าประมาณการของเราอยู่ 8.5%) และประมาณการกำไรปี 2568 ของเราอาจมี Upside 

CRC: มองเป็น Proxy ของกลุ่มค้าปลีกที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ขณะที่ 4Q67 คาดจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ โดยจะเพิ่มขึ้น QoQ ตามฤดูกาล และ YoY จากการขยายสาขาและการคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น หนุนให้ปี 2567 คาดกําไรจะยังเติบโต 7.8%YoY และจะยังเติบโตดีต่อเนื่องอีก 12%YoY ในปี 2568

You can share this post!