เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเริ่มต้นของปี 2567 แอ๊พซินท์ (Appsynth) หนึ่งในที่ปรึกษาด้านดิจิทัลรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคและผู้เชี่ยวชาญด้านแอปบนสมาร์ตโฟนชั้นนำของไทย ได้ร่วมกับ data.ai แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลมือถือ เปิดเผยผลการจัดอันดับข้อมูลท็อป 20 แอปขององค์กรไทยที่มีการดาวน์โหลดสูงสุด นับตั้งแต่เปิดสโตร์จนถึงปัจจุบัน โดยรายงานนี้จะจัดกลุ่มแอปที่มีการดาวน์โหลดสูงสุดตามหมวดหมู่ และดูปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดความสำเร็จ นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มในอนาคตสำหรับแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน
ท็อป 20 แอปของไทยที่ผู้ใช้ดาวน์โหลดสูงสุด
(รวม Apple App Store และ Google Play Store)
1.TrueMoney True Corporation
2.K PLUS KASIKORNBANK
3.Krungthai NEXT Krung Thai Bank
4.SCB EASY Siam Commercial Bank
5.7-Eleven TH CP ALL
6.myAIS MIMO Tech
7.TruelD True Corporation
8.MyMo by GSB Government Savings Bank
9.PaoTang Krung Thai Bank
10.Bangkok Bank Mobile Banking Bangkok Bank
11.LINE MAN LINE MAN
12.AIS PLAY MIMO Tech
13.dtac DTAC
14.Ch7HD BBTV New
15.ShopeePay AirPay
16.Major Cineplex Major Cineplex
17.True iService True Corporation
18.BUGABOO.TV BBTV New
19.CH3 Plus BECi
20.KMA – Krungsri Mobile App Bank of Ayudhya
จากรายชื่อแอปพลิเคชันมือถือที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุด 20 อันดับของไทย พบว่ามีแอปพลิเคชันในภาคบริการทางการเงินถึง 9 แอปจากธนาคาร 7 แห่ง ซึ่งครอบคลุมถึงบริการกระเป๋าเงินดิจิทัล บริการการชำระเงิน และแอปพลิเคชันธนาคารบนสมาร์ตโฟน โดยมี 2 แอปที่ให้บริการโดยหน่วยงานที่ไม่ใช่ธนาคาร
แม้แอปพลิเคชันส่วนใหญ่ในหมวดนี้จะเป็นแอปที่ให้บริการโดยธนาคารพาณิชย์ แต่เป็นที่น่าสนใจว่าแอปพลิเคชันที่มียอดดาวน์โหลดสูงที่สุด คือแอป TrueMoney ให้บริการโดย ทรู คอร์ปอเรชัน โดยเมื่อห้าปีที่แล้วแอป TrueMoney เคยอยู่ในลำดับที่ 6 การไต่ระดับสู่แอปพลิเคชันที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดของ TrueMoney ตอกย้ำให้เห็นถึงความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นจากฟินเทคและโซลูชันทางการเงินแบบฝังตัว (embedded finance solutions) ที่ช่วยทั้งขยายขีดความสามารถ และยกระดับบริการของสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร
TrueMoney (ชื่อเดิม Wallet by TrueMoney) เปิดตัวในปี 2556 ในฐานะผู้ให้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัล ปัจจุบันได้พัฒนาต่อยอด ให้เป็นแอปพลิเคชันอเนกประสงค์ในชีวิตประจำวัน มีฟีเจอร์อื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากการชำระเงินแบบเดิม ทั้งบริการชำระเงินค่าสาธารณูปโภค การเติมเงินโทรศัพท์มือถือ การออมและการลงทุน รวมถึงการโอนเงินแบบ peer-to-peer นอกจากนี้แล้วแอป TrueMoney ยังมีแคมเปญที่ช่วยดึงดูดและรักษาความสัมพันธ์กับผู้ใช้งาน ให้สามารถสะสมคะแนนเพื่อใช้แลกเป็นส่วนลดและของรางวัลต่างๆ ได้ด้วย
นอกจากนี้แล้วในกลุ่มแอปที่มีการดาวน์โหลดสูงสุด 5 อันดับแรก ยังประกอบไปด้วยแอปจากธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของไทย ซึ่งแอปพลิเคชันเหล่านี้ได้แตกบริการใหม่ๆ นอกเหนือไปจากบริการหลัก เช่น ประกัน สินเชื่อ และโปรแกรมสะสมแต้ม
การพัฒนาและปรับตัวของแอปพลิเคชันเหล่านี้ เป็นการยืนยันว่า การที่แอปพลิเคชันจะครองใจผู้ใช้งานและประสบความสำเร็จได้อย่างต่อเนื่องนั้น จะต้องมีการปรับจากแอปที่ให้บริการผลิตภัณฑ์หลักเพียงอย่างเดียว สู่การให้ความสำคัญกับผู้ใช้งาน เอาผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง และสามารถที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีและมีคุณค่าอย่างแท้จริง
นางสาวมนสินี นาคปนันท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด ผู้ให้บริการ ทรู มันนี่ กล่าวว่า “ทรูมันนี่ ขอขอบคุณผู้ใช้งานที่มอบความไว้วางใจและเลือกใช้ทรูมันนี่ในการทำธุรกรรมต่าง ๆ การที่แอปของเรามียอดดาวน์โหลดมากที่สุดนั้น สะท้อนถึงพันธกิจขององค์กรของเราที่ต้องการให้ทุกคนสามารถเข้าถึงนวัตกรรมทางการเงินได้ และช่วยยกระดับชีวิตของทุกคนให้ดียิ่งขึ้น ความสำเร็จนี้จะเป็นแรงผลักดันให้ทีมงานของเราพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมใหม่ ๆ ไม่หยุดยั้ง รวมถึงยกระดับประสบการณ์ในการใช้งานให้ง่ายยิ่งขึ้น และเป็นแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยและมอบคุณค่าในทุกการใช้งานแก่ผู้ใช้ทุกคน”
ในส่วนของบริการฟู้ดเดลิเวอรี ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ มีถึง 2 แอปดังที่อยู่ในลำดับต้น ๆ ของการจัดอันดับ ที่น่าจับตามองคือ 7-Eleven เติบโตแบบก้าวกระโดดโดยครองอันดับที่ 5 ของรายการ เพิ่มขึ้นจากอันดับที่ 15 เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ภาพรวมของวงการฟู้ดเดลิเวอรีในไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ผู้เล่นรายใหญ่ ๆ ในตลาดได้ปรับกลยุทธ์จากการเป็นเพียงสื่อกลางที่ช่วยเชื่อมผู้บริโภคกับร้านอาหารหากัน ไปสู่บริการที่เต็มรูปแบบมากยิ่งขึ้น มีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ประกอบการร้านอาหาร และในฝั่งของผู้บริโภคด้วย เร็ว ๆ นี้ ยังพบว่ามีการจับมือกันของผู้ให้บริการข้ามแพลตฟอร์มมากขึ้น เพื่อสร้างโซลูชันใหม่ ๆ ที่ผนวกเอาเทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาปรับใช้ในวงการร้านอาหาร ผสานประสบการณ์ทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์อย่างลงตัว
App Store เปิดตัวในปี 2551 ด้วยแอปพลิเคชันบนสโตร์ 500 แอปพลิเคชัน ล่าสุดในปี 2566 มีแอปบนสโตร์มากกว่า 1.96 ล้านแอปพลิเคชัน ส่วนแอนดรอย์มีแอปพลิเคชัน 3.7 ล้านแอปบน Google Play ทั้งนี้ มีข้อมูลว่าผู้ใช้งานมากถึง 25% ตัดสินใจเลิกใช้งานแอปหลังจากการใช้งานครั้งแรก แบรนด์ต่าง ๆ ที่กำลังคิดจะสร้างแอป หรือวางแผนอนาคตสำหรับแอปขององค์กร จึงจำเป็นต้องคำนึงถึงคุณสมบัติเด่น เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้ใช้งานเกิดการใช้งานอย่างต่อเนื่อง
นายโรเบิร์ต แกลลาเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอ๊พซินท์ เอเชีย จำกัด ให้ความคิดเห็นว่า “เราภูมิใจที่ได้รับโอกาสร่วมงานกับผู้ให้บริการแอปพลิเคชันหลาย ๆ รายที่ปรากฏในการจัดอันดับนี้ บทบาทของแอ๊พซินท์คือช่วยผลักดันให้เกิดผลลัพธ์สูงสุดจากการลงทุนด้านดิจิทัลขององค์กรที่เราได้ร่วมงานด้วย จะเห็นได้ว่าแอปพลิเคชันที่อยู่ใน 10 ลำดับแรกกำลังผันตัวสู่การเป็น Super app คือมีการเพิ่มบริการใหม่ ๆ ที่นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์หลักออกมา เพื่อที่จะส่งมอบคุณค่าสูงสุดสู่มือผู้ใช้งาน และการที่แพลตฟอร์มเหล่านี้เปิดให้ third-party ได้เข้ามาสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ จะเป็นการเปิดรับโอกาสได้อีกมาก เรามองว่าเทรนด์ super app และ นวัตกรรมแบบเปิด (open innovation) จะมีบทบาทสำคัญต่ออนาคตการพัฒนาแอป ทั้งในปี 2567 นี้ และปีถัด ๆ ไป”
หมายเหตุ
สถิติท็อปดาวน์โหลดเป็นข้อมูลรวบรวมจาก App Store ระหว่างเดือน กรกฎาคม 2551 - ธันวาคม 2566 และ Play Store ในช่วงเดือนมีนาคม 2555 - ธันวาคม 2566