news-details
Business

NCH ประกาศแผนปี’68 ผุด 5 โครงการแนวราบใหม่ มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท เล็งขยายฐานผนึกพันธมิตรสู่โมเดลรพ.ขนาดใหญ่ใกล้หมู่บ้าน คาดสรุปภายในปลายปี

เอ็น.ซี เฮ้าส์ซิ่งฯ เปิดแผนปี 68 จ่อผุด 5 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท เล็งต่อยอดธุรกิจจากศูนย์สุขภาพ “ศิริอรุณ”ขยายฐานผนึกพันธมิตรสู่โมเดลโรงพยาบาลขนาดเล็กใกล้หมู่บ้าน คาดมีความชัดเจนภายในปีนี้ พร้อมเดินหน้าบ้านที่เชื่อมโยงด้านสิ่งแวดล้อม และห่วงใยดูแลสุขภาพ ภายใต้กลยุทธ์หลัก 3 เมกะเทรนด์  นำความสมดุลย์ธรรมชาติ สู่นวัตกรรมการอยู่อาศัย ดันยอดขายโต 4,000  ล้านบาท ครอบคลุมทุกเซกเมนต์

 

นายสมนึก  ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ  บริษัท เอ็น.ซี เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH เปิดเผยถึงภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ ปี 2568 ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศยังคงอยู่ในสภาวะเริ่มฟื้นตัว มีปัจจัยกระทบ Global Supply Disruption แต่คาดว่าคลี่คลายในช่วงครึ่งหลังของปี ดีมานด์ความต้องการบ้านแนวราบจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น การใช้แนวทางช่วยเหลือผู้ซื้อบ้าน  ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อบ้านปี 2568 และมีความหวังว่าตลาดที่อยู่อาศัย จะกลับมาดีขึ้น มีการดูดซับในตลาดมากขึ้นเมื่อผู้ซื้อบ้านมีความมั่นใจ ด้วยปัจจัยหลายด้าน ส่งผลผู้ประกอบการอสังหาฯ จำเป็นต้องทบทวน ปรับแผนธุรกิจให้สอดรับกับกำลังซื้อในตลาด และ หามาตรการทางการตลาดที่เหมาะสม

“ความท้าทายของธุรกิจอสังหาฯในปีนี้ยังมาจากปัจจัยลบหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องหนี้ครัวเรือน ส่งผลให้มียอด Reject ที่สูงมาก ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา ดังนั้นการที่ภาครัฐมีนโยบายที่จะนำมารวมกันและบริหารจัดการ ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญมาก เชื่อว่าอสังหาฯยังเป็นที่ต้องการของผู้อยู่อาศัย หากมองในเชิงบวก จะเห็นว่าทุกอย่างเป็นวัฏจักรมีขึ้นมีลง ดังนั้นการปรับฐานจึงต้องใช้เวลา”นายสมนึก กล่าว

สำหรับแผนการดำเนินงานปี 2568  เอ็น.ซี.ฯ ตั้งเป้าการสร้างมูลค่าเพิ่มสู่ทุกครอบครัวที่กำลังมองหาบ้านเพื่อมาตอบโจทย์ นวัตกรรมที่อยู่อาศัยเทรนด์ใหม่ ปี 2568 ชู Green & Well Living ทุกโครงการแบรนด์ เอ็น.ซี. ดึงคอนเซ็ปต์ GAIA (ไกอา ความสมดุลของธรรมชาติ เป็นศูนย์กลางมุมพักผ่อนเชื่อมธรรมชาติได้อย่างมีมิติ ) มุมพื้นที่เพิ่มขีดความสุข เปิดรับธรรมชาติสู่ความสมดุลของการอยู่อาศัย บนพื้นที่ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ ที่ไร้ขีดจำกัด ควบคู่การดูแลสุขภาพกาย และใจ เอ็น.ซี. พร้อมเนรมิต พื้นที่ทวีความสุข ร่วมเป็นอีกหนึ่งพลังสร้างแรงบันดาลใจ ให้ทุกครอบครัว ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ทาวน์เฮาส์, บ้านแฝด, บ้านเดี่ยว  ด้วยระดับราคาสัดส่วนที่มากขึ้น 3-7 ล้านบาท ผนวกกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมีสินค้าคงเหลือขายในระดับที่เพียงพอ ในปี 2568  

และเพื่อรองรับการเติบโต จึงเตรียมแผนเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก  5 โครงการ  มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท  เป็นโครงการแนวราบประเภทบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮมทั้งหมดซึ่งเป็นการเปิดตัวมากกว่าปี 2567 ที่ผ่านมา ที่เดิมวางแผนจะเปิดตัว 6 โครงการ มูลค่ากว่า 7,200 ล้านบาท แต่สามารถเปิดตัวได้เพียง 2 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท ในทำเลกรุงเทพฯโซนเหนือและโซนตะวันตก  ดังนั้น เมื่อรวมกับโครงการที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน  จำนวนโครงการที่ดำเนินการในปี 2568 จะมีทั้งหมด 19  โครงการ มูลค่ากว่า 15,500 ล้านบาท   

 

ขณะเดียวกันบริษัทยังมองหาโอกาสใหม่ๆในการต่อยอดธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ซึ่งปัจจุบันมีการให้บริการศูนย์สุขภาพ “ศิริอรุณ” อยู่แล้ว แต่มองว่าการที่บริษัทมีโครงการหมู่บ้านจัดสรรต่างๆในเครือ ทำให้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาในการดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลในบริเวณใกล้กับหมู่บ้านของบริษัท ซึ่งจะเป็นโมเดลธุรกิจที่ร่วมกับพันธมิตร คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปี 2568

ส่วนการลงทุนซื้อที่ดินนั้นบริษัทไม่มีแผนในการซื้อที่ดินเพิ่ม เพราะยังมีที่ดินในมือสามารถรองรับการเปิดโครงการใหม่ได้เพียงพอ และยังมีที่ดินในทำเลพัทยาที่อยู่ระหว่างการรอจังหวะและโอกาสในการพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมในอนาคต และปัจจุบันบริษัทได้ชำระคืนหนี้หุ้นกู้ไปหมดแล้ว ทำให้ปัจจุบันบริษัทแทบจะไม่มีหนี้สินแล้ว และมีกระแสเงินสดรองรับการดำเนินธุรกิจได้อย่างเพียงพอ

อย่างไรก็ตามในปีนี้ เอ็น.ซี ให้ความสำคัญความเป็นบ้านที่เชื่อมโยงด้านสิ่งแวดล้อม และห่วงใยดูแลสุขภาพ ซึ่งให้ความสำคัญกลยุทธ์หลัก 3 เมกะเทรนด์  ด้วยกัน

1.กลยุทธ์ด้าน Green Product  พัฒนาสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดผู้บริโภค ด้วย Green &  Well Living ตอบรับการอยู่อาศัยที่มี การออกแบบโดยใช้ผลิตภัณฑ์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พลังงานสะอาด  ด้วยรูปแบบดีไซน์ดึงธรรมชาติเข้ามาใกล้ชิดกับผู้อยู่อาศัยในบ้าน แนวคิด GAIA ศูนย์กลางพื้นที่ความสุขในบ้าน ผ่านการทำ Research จากกลุ่มลูกค้าฐานใหญ่  มาพร้อมกับฟังก์ชั่นดีไซน์  ที่เติมเต็มความสุขให้กับพื้นที่พักผ่อนภายในบ้าน ที่ดึงธรรมชาตินอกบ้านเข้าสู่ตัวบ้าน ให้มีความใกล้ชิดมากขึ้น เสมือนปอดสีเขียวท่ามกลางธรรมชาติ พร้อมวิวพาโนรามารีสอร์ท 360 องศา เป็นเสน่ห์ดีไซน์ สร้างแรงบันดาลใจ ที่ทุกครอบครัวชื่นชอบ  พร้อมสร้างสรรค์การอยู่อาศัยเติมความสุขทุกพื้นที่ให้มากกว่า เป็นแนวคิดตอบโจทย์ความสุข ช่วงเวลาดีดี ที่ได้พักผ่อนในบ้าน

2.กลยุทธ์ Green Finance  ยกระดับสร้างประสบการณ์ Customer Experience ที่เหนือกว่า จากพันธมิตรที่ดี มีการ Collaboration ร่วมกับสถาบันการเงิน เพื่อให้สิ่งพิเศษกับลูกค้า  ด้วยการดูแลลูกค้าตั้งแต่ต้นจนจบด้วยเงื่อนไขที่ดี สำหรับการซื้อบ้าน พร้อมข้อมูล ที่เอื้อประโยชน์สูงสุด ให้กับผู้ซื้อบ้านผ่านTouch Point ด้วยนวัตกรรมการบริการ ตอบรับทุกความต้องการ ได้อย่างตรงใจผู้ซื้อบ้าน สูงสุด ลูกค้าพึงพอใจ ถือเป็นการเพิ่มความรู้การซื้อบ้าน ที่มาพร้อมโซลูชั่นการบริการที่เหนือกว่า

3.กลยุทธ์ Green Service  ให้ความสำคัญ Customer Centric ผ่าน New Product New Design มีการพัฒนาจากความต้องการของผู้ซื้อบ้านอย่างตรงใจ ด้วย Multi Function ผนวกการดูแล Residents Centric เพื่อส่งเสริมการอยู่อาศัยในต้นแบบชุมชน ที่ใส่ใจ ห่วงใย บริหารจัดการอย่างดีเยี่ยม เพิ่มมูลค่าปัจจัยสนับสนุนให้ทุกครอบครัว Value Added มีคุณภาพการอยู่อาศัยในการได้รับบริการ ให้กับ ทุกครอบครัว สอดคล้องกับนโยบายหลักให้ความสำคัญกับลูกบ้านเอ็น.ซี  รู้จักบ้าน รู้ใจคุณ ( Home Expert Living Care ) สู่ปีที่ 31  เดินหน้าพัฒนาเคียงคู่ กับลูกค้า  ตามคอนเซ็ปต์หลักของ  แบรนด์ เอ็น.ซี  ตอบรับความเชื่อมั่น ให้กับ ผู้ซื้อบ้าน

นายสมนึก กล่าวเพิ่มเติมว่า  มีความมั่นใจในการทำยอดขาย ปี 2568 ให้ได้ถึง 4,000 ล้านบาท รับรู้รายได้  2,000 ล้านบาท โดยในช่วงเดือนมกราคม 2568 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถทำยอดขายได้แล้ว 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับยอดขายที่เป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทที่จะเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 300-400 ล้านบาท/เดือน

 

นอกจากนี้ยังพร้อมเสริมทัพด้านพันธกิจ  Environmental (สิ่งแวดล้อม) Social (สังคม) และ Governance (ธรรมาภิบาล) หรือ ESG  ยังคงเดินหน้าเพิ่มชูศักยภาพในการทำการตลาด ที่ตรงใจ ผู้ซื้อบ้าน เข้าถึงกลุ่มลูกค้าฐานใหม่ และรักษาฐานเก่าลูกค้า สร้างประสบการณ์ในด้านที่อยู่อาศัยให้กลุ่มครอบครัวรุ่นใหม่ และต่อยอดการทำการตลาดการขายฐานใหญ่ ลูกบ้านเดิม รวมถึงมั่นใจว่า จะสามารถก้าวผ่านความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจในปี 2568 มั่นใจสามารถบริหารการขายทั้ง 19 โครงการ มูลค่า 15,500 ล้านบาท ได้อย่างตอบโจทย์ความต้องของผู้ซื้อบ้านแบรนด์  สู่การพัฒนา เติบโตไปพร้อมกัน อย่างยั่งยืน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

You can share this post!