การเงิน

กรุงศรี ออโต้ เผยแม้เศรษฐกิจปี67 ผันผวน แต่พร้อมเดินหน้าสนับสนุนให้ทุกคนมีรถใช้ คาดยอดขายรถ EVปีนี้แตะ 100,000 คัน ดันพอร์ตเพิ่มเป็น 50% ระบุลูกค้ากลุ่ม Passenger Car ยังคงมีศักยภาพของกำลังซื้อ ต้นปียอดปล่อยสินเชื่อพุ่งแล้ว 80% พร้อมตั้งเป้าควบคุมสัดส่วนหนี้ NPL ลงมาที่ 2% กางแผนธุรกิจระยะกลางปี 67-69 ตั้งเป้าสู่การเป็นที่ 1 ในใจผู้ใช้รถด้วยส่วนแบ่งตลาด 33%  กับกลยุทธ์ “SEE Beyond” ผ่านการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ,สานต่อการเชื่อมโยงอีโคซิสเต็มเพื่อผู้ใช้รถ และส่งต่อพลังเพิ่มศักยภาพองค์กร ตั้งเป้ายอดสินเชื่อใหม่ปีนี้แตะ 219,636 ล้านบาท และยอดสินเชื่อคงค้างรวมเติบโตที่ 5% 

นายคงสิน คงคา ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากความสำเร็จในปี 2566 ที่ผ่านมา ของ กรุงศรี ออโต้ ในการครองตำแหน่งผู้นำตลาดที่เป็นมากกว่าผู้ให้บริการสินเชื่อยานยนต์ หรือ Beyond Auto Finance ทำให้มองไกลออกไปในอีก 3 ปีข้างหน้า เล็งเห็นถึงแนวโน้มธุรกิจที่ควรต่อยอดอย่างช่องทางดิจิทัลและEV  รวมไปถึงโอกาสใหม่ ๆ ในด้านเศรษฐกิจ พฤติกรรมผู้บริโภค และการบริหารองค์กร ซึ่งในฐานะผู้ให้บริการด้านสินเชื่อยานยนต์ที่ดำเนินธุรกิจตามแนวทางการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ (Krungsri Auto Responsible Lending) ซึ่งบริษัทพร้อมส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับตลาดและขับเคลื่อนทีม กรุงศรี ออโต้ ด้วยการสร้างคุณค่าร่วม (CSV: Creating Shared Value) ให้เกิดขึ้น เพื่อให้ กรุงศรี ออโต้ เป็นที่ 1 ในใจผู้ใช้รถ

ทั้งนี้กรุงศรี ออโต้ มุ่งสนับสนุนการเติบโตของตลาดสินเชื่อยานยนต์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในปี 2567 จะยังเผชิญกับความผันผวนของเศรษฐกิจ แต่กรุงศรี ออโต้ ยังคงเดินหน้าในการสนับสนุนให้ทุกคนสามารถมีรถได้ใช้ ซึ่งการชะลอตัวของสินเชื่อปล่อยใหม่มาจากมุมมองของกรุงศรี ออโต้ ที่คาดว่ายอดขายรถ EV ในปี 2567 อาจจะเติบโตชะลอตัวลงปีก่อนไปค่อนข้างมาก ซึ่งจะเติบโตไม่แรงเท่ากับปี 2566 หลังจากที่ลูกค้ากลุ่มแรก (First adoption) ที่มีความต้องการทดลองใช้รถ EV ได้ซื้อรถ EV ในปีก่อนไปมากแล้ว ซึ่งมีการดึงดีมานด์การซื้อรถ EV ไปจากตลาดค่อนข้างมากในปีก่อน ประกอบกับมาตรการสนับสนุนด้านภาษีรถ EV 3.5 ที่ออกมา มีการสนับสนุนทางภาษีลดลงจาก EV 3.0 ทำให้ราคารถ EV มีการปรับขึ้น ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อรถ EV ที่ชะลอตัว ซึ่งกรุงศรี ออโต้ ประเมินว่ายอดขายรถ EV ในปี 2567 จะอยู่ที่ 100,000 คัน จากปีก่อนที่ 76,000 คัน แต่กรุงศรี ออโต้ ยังคงมีการสนับสนุนสินเชื่อรถ EV กับลูกค้า ซึ่งตั้งเป้าสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อรถ EV ในปี 2567 เพิ่มเป็น 50% จากปีก่อน 49%

อย่างไรก็ตามแม้ว่าเศรษฐกิจจะมีความผันผวน และความไม่แน่นอนอยู่บ้าง ซึ่งมีผลกระทบต่อกำลังซื้อและการตัดสินใจซื้อของคนที่จะซี้อรถ แต่ในเรื่องของอัตราการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ของกรุงศรี ออโต้ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมายังคงอยู่ที่ระดับ 80% และมีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่ระดับ 20% ใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งยังคงเห็นว่ากลุ่มลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ Passenger Car ยังคงมีศักยภาพของกำลังซื้อและความสามารถในการชำระหนี้ที่ดี เมื่อเทียบกับกลุ่มลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ Commercial Car ที่มีความอ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจมากกว่า ซึ่งการพิจารณาสินเชื่อรถยนต์ของกรุงศรี ออโต้ นั้นจะดูที่ศักยภาพในการกู้สินเชื่อ และความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าเป็นหลัก

ขณะที่การควบคุมคุณภาพหนี้ที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2567 ตั้งเป้าควบคุมสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของสินเชื่อรถยนต์ที่ 2% ลดลงจากปีก่อนที่ 2.5% ซึ่งมาจากการที่บริษัทมองเห็นความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าสูงขึ้น หลังจากเปิดเศรษฐกิจกลับมาเต็มที่ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคักมากขึ้น ทำให้คนมีรายได้กลับมามากขึ้น และมีการชำระคืนหนี้กลับมาปกติมากขึ้นตามไปด้วย

นอกจากนี้ กรุงศรี ออโต้ ยังให้ความสำคัญกับการปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ (Responsibility lending) ซึ่งมีการมองถึงความสามารถในการกู้และความสามารถในการชำระหนี้เป็นหลัก ซึ่งได้มีการขยายระยะเวลาในการผ่อนชำระสำหรับสินเชื่อรถยนต์เป็นสูงสุด 84 เดือน และสินเชื่อรถมอเตอร์ไซด์สูงสุด 72 เดือน เพื่อทำให้ลูกค้าสามารถคำนวณอัตราการชำระสินเชื่อได้เหมาะสมกับรายได้ของแต่ละคน และยังคงมั่นใจว่า กรุงศรี ออโต้ จะยังรักษาความเป็นผู้นำเบอร์ 1 ในตลาดสินเชื่อรถยนต์ต่อเนื่อง ด้วยส่วนแบ่งตลาด (Market share) 33%

สำหรับแผนธุรกิจระยะกลางปี 2567-2569 ของ กรุงศรี ออโต้ ภายใต้กลยุทธ์ “SEE Beyond” ประกอบไปด้วย

-Sustainability – สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ยึดมั่นการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ (Krungsri Auto Responsible Lending) ตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งสอดรับกับแนวทางของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ประกาศใช้เมื่อต้นปี ผ่านหลักการ C-O-D-E ในการดำเนินธุรกิจอย่างเคร่งครัด ได้แก่ การช่วยประกอบการพิจารณาสินเชื่อให้กับลูกค้าเพื่อประเมินความสามารถ รายได้ และการชำระค่างวด (Capability to pay) นำเสนอเงื่อนไขที่โปร่งใสและเป็นธรรม (Offerings with transparency) ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือลูกค้าในภาวะวิกฤต (Debt restructure) และให้ความรู้เพื่อสร้างความเข้าใจและไม่ให้ลูกค้าก่อหนี้เกินความจำเป็น (Education) พร้อมกับสร้างโอกาสในการเรียนรู้ด้านการบริหารการเงินให้กับผู้ใช้รถ และสื่อสารความรู้ด้านสินเชื่อและประกันภัยยานยนต์ผ่านแพลตฟอร์มของ One Retail และเครือกรุงศรี

-Auto User Ecosystem Connectivity – สานต่อการเชื่อมโยงอีโคซิสเต็มเพื่อผู้ใช้รถ ปักธงเป็น Aggregator หรือผู้สร้างอีโคซิสเต็มที่เป็นศูนย์รวมทุกเรื่องของผู้ใช้รถไว้ในที่เดียว โดยผสานความแข็งแกร่งของพันธมิตรกว่า 100 ราย กับฐานผู้ใช้รถกว่า 3.3 ล้านรายในประเทศไทย เพื่อสร้างแหล่งรายได้ใหม่จากบริการใหม่บนแอปพลิเคชัน GO by Krungsri Auto ได้แก่ GO Travel ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนผู้ใช้รถขับรถเที่ยวไทยพร้อมรับสิทธิพิเศษร่วมกับพันธมิตรตลอดเส้นทาง กระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ, EV Station สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดกับพันธมิตรสถานีชาร์จEV  5 ราย ครอบคลุมทั่วประเทศ และ E-marketplace สร้างแหล่งซื้อขายยานยนต์ผ่าน Auto Station รวมไปถึงสินค้าและอุปกรณ์เสริมอีวีผ่าน LINE Official Account ที่ให้ผู้ขายได้ติดต่อกับผู้ซื้อโดยตรง

-Empowerment – ส่งต่อพลังเพิ่มศักยภาพองค์กร ขับเคลื่อนองค์กรผ่านพนักงาน 5,000 คน ด้วยการเพิ่มศักยภาพและเสริมทักษะใหม่ ๆ สร้างวัฒนธรรมที่เปิดกว้าง เสนอคุณค่าเพื่อสร้างแรงจูงใจ ตลอดจนบริหารองค์กรให้ตอบสนองอย่างว่องไว รองรับการตัดสินใจของทีมงานที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้สามารถส่งมอบคุณค่าผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่ทันใจ พัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าและผู้ใช้รถได้อยู่เสมอ

“โดยในปี 2567 นี้ กรุงศรี ออโต้ มุ่งสนับสนุนการเติบโตของตลาดสินเชื่อยานยนต์ในประเทศไทย ตั้งเป้ายอดสินเชื่อใหม่ที่ 219,636 ล้านบาท และยอดสินเชื่อคงค้างรวมเติบโตที่ 5% จากปีก่อนหน้า ด้วยมูลค่า 466,577 ล้านบาท ตามพันธกิจในการสร้างสรรค์ชีวิตผู้ใช้รถให้ดีขึ้น แม้ว่าเป้าสินเชื่อใหม่ในปีนี้อาจจะชะลอลงบ้างจากปีก่อนที่ 220,000 ล้านบาท” นายคงสิน กล่าวในที่สุด