การยาสูบแห่งประเทศไทย เล็งนำที่ดินทั่วประเทศกว่า 6,000 ไร่ ต่อยอดศักยภาพพื้นที่ปล่อยภาคเอกชนเช่าระยะยาว สร้างรายได้ นำร่องที่ดิน 4 แปลง 3 โครงการ พื้นที่กทม.-เชียงราย กว่า 86 ไร่ รวมมูลค่าประมาณ 2,476 ล้านบาท เปิดให้เช่าพัฒนาโครงการทั้งในระยะสั้น-ระยะยาว ล่าสุดยักษ์อสังหาฯ-รับเหมาก่อสร้าง สนใจเช่าพื้นที่แล้วเกือบ 10 ราย
นายภูมิจิตต์ พงษ์พันธุ์งาม ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย หรือ ยสท. (TOAT) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา การยาสูบฯได้มีการจัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นและทดสอบความสนใจของนักลงทุน (Market Sounding) โครงการพัฒนาที่ดินพร้อมผลตอบแทนการจัดหาผลประโยชน์ของการยาสูบแห่งประเทศไทย ปีงบประมาณ 2567 โดยมีตัวแทนจากภาคธุรกิจภาคเอกชน กลุ่มนักลงทุน สนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมากสำหรับการยาสูบแห่งประเทศไทย ถือเป็นรัฐวิสาหกิจชั้นนำที่ครอบครองที่ดินศักยภาพในการพัฒนาเชิงธุรกิจหลากหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ที่สามารถนำมาพัฒนาต่อยอดศักยภาพของพื้นที่ในเชิงธุรกิจได้ โดยปัจจุบันมีที่ดินรวม 150 แปลงทั่วประเทศ พื้นที่รวมกว่า 6,000 ไร่ โดยมูลค่าจากการประเมินเบื้องต้นอยู่ที่ประมาณ 5,000-10,000 ล้านบาท โดยพื้นที่ภาคเหนือ มีที่ดินมากสุด 82 แปลง 5 จังหวัด ซึ่งได้มีการให้บริษัทที่ปรึกษาทำการสำรวจแปลงที่ดินทั้งหมด เพื่อนำมาพัฒนาใน 3 รูปแบบ ได้แก่ 1.ที่ดินที่สามารถนำมาพัฒนาในเชิงพาณิชย์ มีสัดส่วนประมาณ 15% 2.ที่ดินที่สามารถนำมาพัฒนาในเชิงอุตสาหกรรม มีสัดส่วนประมาณ 25% และ 3.ที่ดินที่สามารถนำมาพัฒนาในด้านเกษตรกรรม มีสัดส่วนประมาณ 60%
ล่าสุดได้คัดเลือก ที่ดินจำนวน 3 โครงการ 4 แปลง พื้นที่กว่า 86 ไร่ รวมมูลค่าประมาณ 2,476 ล้านบาท เปิดให้เช่าพัฒนาโครงการทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ประกอบด้วย
-โครงการที่ 1 แปลงที่ดินโฉนดเลขที่ 4744 และ 5215 ซอยสุขุมวิท 10 เขตคลองเตย กรุงเทพฯ พื้นที่โครงการรวม 2 ไร่ 2 งาน 93.1 ตารางวา บนเงื่อนไขการจัดประโยชน์ในพื้นที่รัฐ 750,000 บาท/ตารางวา มูลค่าประมาณ 756,830,000 บาท เปิดประมูลให้เช่าระยะยาว 30 ปี ที่ดินติดสวนป่าเบญจกิติฝั่งเหนือเป็นพื้นที่ศักยภาพสูง มีบรรยากาศริมน้ำร่มรื่นและใกล้ชิดกับธรรมชาติ สนับสนุนกิจกรรมการพักผ่อนหย่อนใจ การท่องเที่ยว ที่พักอาศัย และกิจกรรมเชิงพาณิชย์อื่นๆ
-โครงการที่ 2 พื้นที่บางส่วนของแปลงที่ดินโฉนดเลขที่ 3505 และ 3507 ของสำนักงานใหญ่ การยาสูบแห่งประเทศไทย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ พื้นที่โครงการรวมกว่า 9 ไร่ บนเงื่อนไขการจัดประโยชน์ในพื้นที่รัฐ 250,000 บาท/ตารางวา มูลค่าประมาณ 920,730,000 บาท สนับสนุนกิจกรรมด้านกีฬาและ สันทนาการ เปิดให้เช่าอายุสัญญา 10 ปี
-โครงการที่ 3 แปลงที่ดินสถานีใบยาเวียงพาน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พื้นที่โครงการรวมกว่า 75 ไร่ บนเงื่อนไขการจัดประโยชน์ในพื้นที่รัฐ 26,450 บาท/ตารางวา มูลค่าประมาณ 798,060,000 บาท เป็นพื้นที่โล่งขนาดใหญ่ติดทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน เข้าถึงได้ง่าย อยู่ในพื้นที่ตัวเมืองแม่สาย ซึ่งเป็นเมืองการค้าชายแดนที่สำคัญ ที่ดินอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการ โรงพยาบาล และสวนสาธารณะ ด้วยขนาดพื้นที่กว่า 75 ไร่และตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สาย ทำให้ที่ดินนี้มีศักยภาพสามารถรองรับโครงการขนาดใหญ่ ส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคได้ทั้งหมดนี้เป็นที่ดินศักยภาพจากการยาสูบแห่งประเทศไทย ที่ได้คัดสรรมาให้กับนักลงทุน ภาคเอกชน เข้ามามีส่วนร่วมในการลงทุนโครงการ โดยนำความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ในการบริหารจัดการ พื้นที่ ต่อยอด ส่งเสริมภาคธุรกิจให้เติบโตและก้าวหน้าอย่างเต็มประสิทธิภาพ
โดยใช้ระยะเวลาตั้งแต่การรับฟังความคิดเห็นและทดสอบความสนใจของนักลงทุน (มิถุนายน 2567) ถึงขั้นตอนการลงนามในสัญญา ประมาณเดือนมีนาคม 2568 (รวม 5 ขั้นตอน ใช้ระยะเวลาประมาณ 9 เดือน)
ภายในงานผู้ร่วมประชุม ได้ร่วมรับฟังเสวนาพิเศษ ในหัวข้อ "Lost World in The City" การเปิดโอกาสในการพัฒนาทรัพย์สินของรัฐวิสาหกิจในมุมมองการพัฒนาเมือง ร่วมเสวนาโดย รศ.ดร. จิตติศักดิ์ ธรรมาภรณ์พิลาศผศ.ดร.ณัฐพงศ์ พันธ์น้อย ผู้เชี่ยวชาญด้านผังเมืองและพัฒนาเมือง จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผศ.ดร.ชูชาติ เตชะโพธิวรคุณ ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนและนักลงทุนที่มีความสนใจ ร่วมแสดงความคิดเห็น ให้ข้อเสนอแนะต่อการดำเนินโครงการ เพื่อนำไปสู่การสรุปแนวทางในการให้ภาคเอกชนร่วมลงทุนต่อไป โดยที่ดินทั้ง 3 โครงการได้รับความสนใจจากบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลาย อาทิ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) หรือ CPN,บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด(มหาชน) หรือ MBK , บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด(มหาชน) หรือ ASW ,บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน),บริษัท นันทวัน จำกัด ,บริษัท ลิฟเวล ลิฟวิ่ง จำกัด บริษัท ฟิฟธ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด และ บริษัท เฮอริเทจ เอสเตท จำกัด เป็นต้น
ทั้งนี้ หากนักลงทุนต้องการแสวงโอกาสจากที่ดินทำเลทองทั้ง 3 โครงการนี้ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ การยาสูบแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่ สำนักพัฒนาธุรกิจ
