“ไทย สมายล์ บัส” จัดรถเมล์แอร์เสริมทัพ บริการ 14 เส้นทาง ทดแทนผู้ประกอบเดิมหยุดวิ่ง คาดช่วยเพิ่มรายได้อีก 30 ล้านบาท พร้อมนำเสนอแผนปฎิรูปรถเมล์ 116 เส้นทางให้กรมการขนส่งฯ พิจารณา หวังเพิ่มผลประกอบการอีก 80 ล้านบาท หนุนผลประกอบการครึ่งปีหลังพุ่ง 260 ล้านบาท
เสริมทัพรถเมล์แอร์ บริการแทนผู้ประกอบการเดิมหยุดวิ่ง
นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด หรือ TSB ผู้ให้บริการรถเมล์และเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า 100% เปิดเผยว่า จากกรณีที่ผู้ประกอบการรายเดิมเตรียมหยุดให้บริการรถโดยสารประจำทางในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งสิ้น 14 เส้นทาง ในเดือนกรกฎาคม 2567 นี้เป็นต้นไป บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงปัญหาการเดินทางที่อาจเกิดขึ้นกับความไม่สะดวกในการเดินทางของผู้โดยสารหลังจากผู้ประกอบการรายเดิมถอดถอนรถให้บริการออกไป บริษัทฯ จึงได้เตรียมแผนที่จะนำรถเมล์ปรับอากาศพลังงานไฟฟ้าออกมาให้บริการทดแทน ยืนยันมีความพร้อมในการให้บริการประชาชนในเส้นทางทั้งหมด โดยเบื้องต้นได้เตรียมรถให้บริการเพิ่มอีกกว่า 389 คัน และจะทยอยเพิ่มจำนวนต่อเนื่อง
เผย 14 เส้นทาง รถเมล์ “ไทย สมายล์ บัส” วิ่งเต็มระบบ
สำหรับเส้นทางที่ผู้ประกอบการรายเดิมแจ้งหยุดให้บริการในเดือนกรกฎาคมนี้มีทั้งสิ้น 14 เส้นทาง ประกอบด้วย
-สาย 3-36(4) ท่าน้ำภาษีเจริญ - ท่าเรือคลองเตย
-สาย 4-17(88) วัดคลองสวน - ลาดหญ้า
-สาย 3-37(12) ห้วยขวาง - ปากคลองตลาด
-สาย 4-56(165) พุทธมณฑลสาย 2 - ถนนศาลาธรรมสพน์ - สำนักงานเขตบางกอกใหญ่
-สาย 1-39(71) สวนสยาม - วัดธาตุทอง
-สาย 3-1(2) สำโรง - ปากคลองตลาด
-สาย 3-35(1) ถนนตก - ท่าเตียน
-สาย 3-45(77) สาธุประดิษฐ์ - สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ(จตุจักร)
-สาย 4-15(82) พระประแดง - บางลำภู
-สาย 4-46(84) สถานีรถไฟฟ้าวงเวียนใหญ่ - สามพราน
-สาย 4-61(515) สถานีรถไฟฟ้าพญาไท - หมู่บ้านเอื้ออาทรศาลายา
-สาย 3-3(11) อู่เมกา บางนา - มาบุญครอง
-สาย 3-6(25) ท่าช้างวังหลวง - อู่สายลวด
-สาย 4-44(80ก.) วปอ.11-สวนหลวงพระราม 8
โดยในส่วนของสาย 3-36(4), สาย 4-15(82), สาย 4-46(84) และสาย 3-6(25) ไทย สมายล์ บัส จะเดินรถให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
“ไทย สมายล์ บัส พร้อมเริ่มให้บริการเต็มระบบใน 14 เส้นทางดังกล่าว ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างไร้รอยต่อ โดยปัจจุบันไทย สมายล์ บัส มีรถให้บริการแล้วกว่า 2,350 คัน และมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนรถต่อเนื่องตามความต้องการของผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้น”
มีรถเมล์ไว้บริการ 2,350 คัน
ด้าน นายวรวิทย์ ชาญชญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายปฏิบัติการและกลยุทธ์ บริษัท ไทย สมายล์ บัสฯ กล่าวเสริมว่า ในวันที่ 24 ก.ค. นี้เป็นต้นไป องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จะยกเลิกการเดินรถในเส้นทางทับซ้อน 14 เส้นทาง บริษัทฯ พร้อมให้บริการผู้โดยสารอย่างเต็มที่ โดยบริษัทฯ มีรถไว้บริการจำนวน 2,350 คัน ซึ่งปัจจุบันมีรถวิ่งแค่ 1,500 คัน ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้บริการ
“หลังจากมีการเพิ่มรถให้บริการ 14 เส้นทาง คาดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 30 ล้านบาท/เดือน เพราะเส้นทางนี้มีผู้โดยสารประมาณ 50,000 - 100,000 คน/วัน”
จัดแผนปฎิรูปเส้นทางรถเมล์ รองรับชุมชนชาญเมือง
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้จัดแผนปฎิรูปปรับปรุงเส้นทางรถเมล์ 116 เส้นทาง จากทั้งหมด 123 เส้นทางเดิม เพื่อขยายเส้นทางให้วิ่งยาวขึ้นอีกประมาณ 10 กิโลเมตร เพื่อรองรับพื้นที่ชุมชนที่เพิ่มตามชาญเมือง ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้อีก 80 ล้านบาท/เดือน ปัจจุบันได้นำเสนอกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) พิจารณาแล้ว
คาดครึ่งปีหลัง 67 รายได้พุ่ง 260 ล้านบาท
“จากแผนบริหาร 123 เส้นทาง บริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 150 ล้านบาท/เดือน ถ้าสามารถขยายเส้นทางให้ยาวขึ้นอีก 116 เส้นทาง และจัดรถวิ่งเพิ่มอีก 14 เส้นทาง จะส่งผลให้ผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลัง 2567 เพิ่มเป็น 260 ล้านบาท/เดือน อย่างไรก็ดี ปัจจุบันบริษัทฯ มีรายได้เฉลี่ย 3,400 บาท/วัน/คัน จากต้นทุนอยู่ที่ 3,500 บาท/วัน/คัน โดยมีรายได้ต่ำสุด 1,500 บาท/วัน/คัน และรายได้สูงสุดกว่า 5,000 บาท/วัน/คัน โดยเส้นทางที่ทำรายได้สูงสุด คือ สาย 140 และสาย 8 สำหรับจุดคุ้มทุนในการบริหารจัดการจะอยู่ที่ประมาณ 7,000 บาท/วัน/คัน“
