“กลุ่มอาณา ดีเวลอปเมนท์” เดินหน้าสานต่อความเป็นผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เปิดตัวโครงการ “SERRANA” โครงการวิลล่าระดับพรีเมี่ยมริมทะเลสาบท่ามกลางธรรมชาติงดงาม ย่านม่าหนิก ประเดิมเฟสแรก 20 ยูนิต มูลค่าโครงการรวมกว่า 1,000 ล้านบาท ชูจุดขายด้วยงานสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น จากแนวคิดศิลปะชั้นสูงแนบอิงธรรมชาติ และสร้างให้ทุกยูนิตการอยู่อาศัย สัมผัสวิวทะเลสาบขนาดใหญ่และธรรมชาติที่รายล้อมอย่างเต็มที่ ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้านักลงทุนต่างชาติ และนักท่องเที่ยวระดับบน
นายอดิศร วิเวกานนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อาณา ดีเวลอปเมนท์ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการใหม่ล่าสุด “SERRANA LAKEFRONT POOL VILLAS PHUKET” บนที่ดินประมาณ 10 ไร่ ในย่านม่าหนิก ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เพื่อพัฒนาโครงการพูลวิลล่าระดับพรีเมี่ยม ติดทะเลสาบขนาดใหญ่และอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สมบูรณ์และสวยงาม โดยเริ่มเฟสแรกจำนวน 20 ยูนิต มูลค่าโครงการรวมกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนไทยและต่างชาติ ที่ต้องการลงทุนในย่านท่องเที่ยวสำคัญระดับโลกของจังหวัดภูเก็ต โดยมีพันธมิตร บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นตัวแทนบริหารการตลาดและการขาย ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป้าหมายเป็นอย่างดี
“SERRANA LAKEFRONT POOL VILLAS PHUKET” มีความโดดเด่นด้วยการออกแบบด้านสถาปัตยกรรมที่สร้างให้ทุกยูนิตสำหรับการอยู่อาศัย สามารถสัมผัสกับความเป็นธรรมชาติของทัศนียภาพของทะเลสาบขนาดใหญ่ และธรรมชาติโดยรอบที่สวยงามโดยรอบ ตั้งแต่ยูนิตไฮไลท์แบบชั้นเดียวที่ติดริมทะเลสาบ ไปจนถึงยูนิตที่อยู่ถัดไปยกระดับเป็นอาคารสองชั้น
นอกจากนี้ ยังดีไซน์สถาปัตยกรรมที่เชื่อมโยงธรรมชาติอันโดดเด่นสู่ตัวอาคาร ด้วยการออกแบบให้มีการเชื่อมต่อทั้งภายในและภายนอกอาคารด้วย “กำแพงชั้นดินอัด” หรือ “Rammed earth” ซึ่งเป็นศิลปะสถาปัตยกรรมใหม่ที่มีอัตลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว และมีการผสมผสานการใช้ “สัจจะวัสดุ” และวัสดุตกแต่งธรรมชาติที่มีคุณภาพสูง ส่วนภายในออกแบบอาคารให้มีความสูง โปร่ง โล่ง และใช้บานกระจกขนาดใหญ่ เพื่อเปิดรับแสงสว่างธรรมชาติได้เต็มที่ เพื่อผู้อยู่อาศัยสัมผัสถึงประสบการณ์ใหม่ จากการอยู่อาศัยอย่างเป็นมิตรและมีชีวิตชีวากับธรรมชาติกายภาพอันงดงามของพื้นที่ เปรียบเสมือนการใช้ชีวิตใน “โอเอซิส” ที่ผสมผสานไลฟ์สไตล์พรีเมี่ยม สง่างาม สงบสุขอย่างสมดุลและลงตัว ตั้งแต่ยามเช้าจนถึงช่วงค่ำคืน
SERRANA LAKEFRONT POOL VILLAS PHUKET มี 3 ขนาด ประกอบด้วย POOL VILLAS Type A อาคารชั้นเดียว บนที่ดินขนาด 163 – 234 ตารางวา ขนาดพื้นที่ใช้สอยรวม 501 ตารางเมตร ขนาด 4 ห้องนอน แบ่งเป็น 2 ห้องนอนใหญ่ 2 ห้องนอนมาตรฐาน 5 ห้องน้ำ มีห้องครัวทั้งแบบตะวันตกและครัวไทย มีห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำยาว 15 เมตร พร้อมที่นั่งในสระ ที่จอดรถ 3 คัน POOL VILLAS Type B อาคารชั้นเดียว ขนาดพื้นที่ 154 – 178 ตารางวา ขนาดพื้นที่ใช้สอยรวม 426 ตารางเมตร ขนาด 3 ห้องนอน แบ่งเป็น 1 ห้องนอนใหญ่ 2 ห้องนอนขนาดมาตรฐาน 4 ห้องน้ำ มีห้องครัวทั้งแบบตะวันตกและครัวไทย มีห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำยาว 10 เมตร ที่จอดรถ 2 คันและLAKEVIEW POOL VILLAS Type C อาคารสองชั้น ขนาดที่ดิน 139 – 148 ตารางวา ขนาดพื้นที่ใช้สอยรวม 515 ตารางเมตร ขนาด 4 ห้องนอน แบ่งเป็น 2 ห้องนอนใหญ่ 2 ห้องนอนขนาดมาตรฐาน ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องอเนกประสงค์ได้ 6 ห้องน้ำ พื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 2 เปิดกว้าง สระว่ายน้ำยาว 9.5 เมตร ที่ต่อเนื่องกับห้องรับแขกขนาดใหญ่ ที่สามารถสัมผัสวิวทะเลสาบและธรรมชาติอย่างเต็มที่ มีห้องครัวทั้งแบบตะวันตกและครัวไทย ที่จอดรถ 2 คันนอกจากนี้ทุกยูนิต สามารถเพิ่มฟังก์ชั่นความสะดวกสบายได้ด้วยลิฟต์ส่วนตัวได้ด้วย
นายชัยวัฒน์ ตันติวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ และประธานกรรมการบริหารด้านการเงิน บริษัท อาณา ดีเวลอปเมนท์ จำกัด กล่าวเสริมว่า การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตนั้น ยังมีความต้องการของผู้ลงทุนอยู่อย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการขายโครงการคอนโดฯ และโครงการอาคารทาวน์โฮม พรีเมี่ยมของกลุ่มอาณาฯ ที่สามารถปิดการขายอย่างรวดเร็วทุกโครงการ สำหรับที่ดินแปลงใหม่นี้ เหมาะสมสำหรับอย่างมากสำหรับการพัฒนาโครงการที่มีมูลค่าสูง เนื่องจากมีทะเลสาบขนาดใหญ่ และมีวิวทิวทัศน์จากธรรมชาติของภูเขาใกล้เคียงที่งดงาม อีกทั้งโครงการก็อยู่ในย่านชุมชน และใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกมากมาย ที่สำคัญไม่ไกลสนามบินนานาชาติภูเก็ตด้วย จึงเลือกพัฒนาเป็นโครงการรูปแบบพูลวิลล่าพรีเมี่ยม เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มนักลงทุนระดับบน ซึ่งส่วนใหญ่คาดว่าน่าจะเป็นต่างชาตินั่นเอง
“ SERRANA LAKEFRONT POOL VILLAS PHUKET เฟสแรก นับเป็นการยกระดับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในกลุ่มของ อาณาฯ ให้เข้าสู่ระดับสากลมากยิ่งขึ้น ส่วนในเฟสต่อๆ ไป ในที่ดินบริเวณใกล้เคียงที่ได้เตรียมที่ดินไว้นั้น อาจจะมีการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบอื่นๆ ด้วย เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับที่ดินและคอมมูนิตี้ของย่านม่าหนิกแห่งนี้ด้วย เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา เราพัฒนาตั้งแต่คอนโดมิเนียม ทาวน์โฮมระดับพรีเมี่ยม จนถึงโรงแรม ที่ประสบความสำเร็จมาโดยตลอด เพราะเราคำนึงถึงโอกาส ความคุ้มค่า และการต่อยอดการเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้าที่ลงทุนในโครงการของเราเสมอ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งจุดขายที่ครองใจลูกค้า ทำให้เราประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่องนั่นเอง” นายชัยวัฒน์ กล่าว
