ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ท่าอากาศยานไทยได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ด้วยการเพิ่มศักยภาพการให้บริการผู้โดยสารอย่างเหนือชั้น ตามนโยบาย “คมนาคมเพื่อโอกาสประเทศไทย” ที่มุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางทุกมิติ ทั้งทางบก ราง น้ำ และอากาศ
ยอดผู้โดยสารทะลุ 2.97 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.7%
ข้อมูลจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ระบุว่า ในช่วงวันที่ 27 ธันวาคม 2567 ถึง 2 มกราคม 2568 มีผู้โดยสารใช้บริการท่าอากาศยานในสังกัดกว่า 2.97 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 1.84 ล้านคน (+23.8%) และผู้โดยสารภายในประเทศ 1.13 ล้านคน (+13.5%)
ด้านจำนวนเที่ยวบินรวม 17,385 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 16.4% โดยเฉพาะเที่ยวบินระหว่างประเทศที่เติบโตถึง 21.7% ซึ่งสะท้อนถึงการฟื้นตัวของภาคการบินหลังเผชิญความท้าทายจากสถานการณ์โลก
เทคโนโลยี Biometric ช่วยลดเวลาการเดินทาง
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือการนำเทคโนโลยี Biometric มาใช้ในกระบวนการตรวจสอบผู้โดยสาร โดยระบบนี้สามารถลดเวลาการใช้บริการแต่ละจุดในท่าอากาศยานจาก 3 นาที เหลือเพียง 1 นาที ช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็ว และลดความแออัดในพื้นที่
ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT เปิดเผยว่า ภายในวันที่ 15 มกราคม 2568 ระบบ Biometric จะรองรับการใช้งานบัตรประชาชนตลอดชีพที่ไม่มีวันหมดอายุ และยังแก้ไขข้อจำกัดสำหรับผู้ที่มีชื่อภาษาอังกฤษยาวเกิน 20 ตัวอักษร เพื่อให้คนไทยใช้งานได้ 100%
สนามบินหลักเติบโตอย่างก้าวกระโดด
สนามบินในสังกัด AOT ทุกแห่งมีอัตราการเติบโตที่น่าจับตามอง:
• สุวรรณภูมิ: ผู้โดยสาร 1.42 ล้านคน (+16.1%)
• ดอนเมือง: ผู้โดยสาร 758,929 คน (+27%)
• ภูเก็ต: ผู้โดยสาร 437,411 คน (+20.4%)
มุ่งหน้าสู่อนาคตที่ยั่งยืน
AOT ยังเตรียมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม เช่น การเปิดใช้งานอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1) และการเปิดเส้นทางวิ่งที่ 3 เพื่อลดความแออัดและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ
การเติบโตของ AOT ไม่เพียงสะท้อนถึงความสำเร็จในการบริหารจัดการ แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ก้าวสู่เวทีโลกอย่างมั่นคง ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและการให้บริการที่เป็นเลิศ ท่าอากาศยานไทยจึงพร้อมรองรับทุกความท้าทายและสร้างโอกาสให้คนไทยในทุกมิติ
