ดีเฮ้าส์พัฒนา เผยสัญญาณตลาดอสังหาฯเริ่มฟื้นตัวจากไตรมาส 4/68 ลูกค้าเข้าซื้อ-เยี่ยมชมโครงการต่อเนื่อง ส่วนภาพรวมตลาดปี 68 แม้ยังไม่มีสัญญาณชัดเจน แต่ยอดขายบริษัทฯยังสวนกระแส ส่งผลซื้อที่ดินจ.ขอนแก่น เพิ่มอีกเกือบ 300 ไร่ รองรับการพัฒนาปี 69 เมินผุดคอนโดฯ ความเสี่ยงสูง เปิดแผนปีงูเล็กเตรียมผุดบ้านเดี่ยว ในตัวเมือง จ.มหาสารคาม ราคา 2.5-3.5 ล้านบาท จำนวนประมาณ 80 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 200 ล้านบาท ทั้งนำที่ดินหลังปั๊มปตท. 30 ไร่ เนรมิต “ไนท์มาร์เก็ต” คาดทั้ง 2 โครงการ พร้อมเปิดตัวได้ประมาณไตรมาส 3/68 มั่นใจรายได้ปีนี้โต 30-40% จากปี 67 กวาดรายได้ 200 ล้านบาท
นายพงศ์พจน์ เลิศรุ้งพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีเฮ้าส์พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ DHOUSE ผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดมหาสารคาม ประเภทที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์เพื่อขายหลากหลายรูปแบบ อาทิ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ และอาคารพาณิชย์ เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งเน้นสร้างการเติบโตของรายได้และเพิ่มความสามารถในการทำกำไรจากทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ ธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน โดยในช่วงไตรมาส 4/2567 ที่ผ่านมา บริษัทมีการรับรู้รายได้จากยอดขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นถึง 20% เพื่อเทียบกับ 3 ไตรมาสแรกของปี 2567 ที่ผ่านมา และลูกค้ามีการเข้าเยี่ยมชมโครงการอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งธุรกิจสถานีบริการน้ำมันที่สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มดำเนินการ มีปริมาณผู้ใช้บริการหมุนเวียนเป็นจำนวนมาก จากความต้องการน้ำมันสำหรับการเดินทางช่วงเทศกาล รวมถึงการใช้บริการธุรกิจร้านค้าภายในสถานีบริการน้ำมันที่มากขึ้น คาดว่าจะทำให้ผลการดำเนินงานของปี 2567 มีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่บริษัทสามารถพลิกทำกำไรสุทธิในงวด 9 เดือน ปี 2567
สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯในปี 2568 นั้น มองว่าแม้ว่าจะยังไม่มีความชัดเจน แต่ด้วยศักยภาพของที่ดินที่พัฒนาทุกโครงการล้วนเป็นทำเลศักยภาพ ล่าสุดเมื่อปี 2567 ที่ผ่านมาได้ซื้อที่ดินบริเวณพื้นที่อ.เมือง จ.ขอนแก่น อีกเกือบ 300 ไร่ เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการในปี 2569 ทั้งนี้ต้องรอดูสถานการณ์ตลาดด้วย
อย่างไรก็ตามจากยอดขายอสังหาฯที่เริ่มส่งสัญญาณดีขึ้นเมื่อปลายปี 2567 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ในปี 2568 นี้ บริษัทฯมีแผนที่จะนำที่ดินสะสมใน อ.เมือง จ.มหาสารคาม มาเปิดตัวใหม่อีก 1 โครงการ บนพื้นที่ 20 ไร่ พัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยว ขนาดที่ดินประมาณ 50-80 ตารางวา ราคาประมาณ 2.5-3.5 ล้านบาท จำนวนประมาณ 80 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 200 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวได้ประมาณไตรมาส 3/2568
“มองว่าแนวโน้มตลาดอสังหาฯเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น จากการที่โครงการของเรามียอดขายที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีสัญญาณมาตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/2567 ที่ผ่านมา แต่ด้วยกฎเกณฑ์ของสถาบันการเงิน ก็อาจจะมีลูกค้าบางรายไม่ผ่านการกู้สินเชื่อบ้าง ซึ่งโครงการของเรามียอด Reject ไม่ถึง 10% เพราะส่วนใหญ่ยังมีฐานะทางการเงินที่ดี และแม้จ.มหาสารคาม จะเป็นเมืองที่มีมหาวิทยาลัยใหญ่หลายแห่ง แต่เรายังคงเน้นการพัฒนาโครงการแนวราบเป็นหลัก เนื่องจากมีความปลอดภัยและไม่มีความเสี่ยงเหมือนเช่นคอนโดมิเนียม”นายพงศ์พจน์ กล่าว
นายพงศ์พจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้มียังแผนนำที่ดินประมาณ 30 ไร่ จากทั้งหมด 80 ไร่ บริเวณฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยมหาสารคาม มาพัฒนาเป็น “ไนท์มาร์เก็ด” ซึ่งจะมีทั้งสิ้นจำนวนหลายอาคาร โดยใช้งบในการลงทุนประมาณ 25-30 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้างอาคารหลังแรก คาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการในส่วนของอาคารแรกได้ในปลายไตรมาส 3/2568 นี้ อีกทั้งยังอยู่ในระหว่างการเจรจาซื้อที่ดินบริเวณโดยรอบเพิ่มอีกประมาณ 10 กว่าไร่ เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการในอนาคต ปัจจุบันที่ดิน 80 ไร่ พัฒนามาแล้ว 2 ส่วน คือ สถานีบริการน้ำมันปตท. ยูพาร์ค ขามเรียง และโครงการ U PARK HOME และล่าสุดคือ โครงการ “ไนท์มาร์เก็ต”
ปัจจุบัน DHOUSE ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อจำหน่าย จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการเดอะ แกรนด์ คาแนล ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 50% และในปี 2568 คาดว่าจะมียอดขายเพิ่มอีก 20% , โครงการแกรนด์ บิซ, โครงการพฤกภิรมย์ ศาลากลาง, โครงการ U PARK HOME และ ธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน รวมถึงธุรกิจร้านค้าภายในสถานีบริการน้ำมัน “ปตท. ยูพาร์ค ขามเรียง” ใกล้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ภายใต้การบริหารของบริษัท ดี เอนเนอร์จี แอนด์ รีเทล จำกัด ในรูปแบบ DODO (Dealer Owned Dealer Operated) จำนวน 1 แห่ง โดยแบ่งสัดส่วนรายได้ตามธุรกิจ ประกอบด้วย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 39%, ธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน และ ร้านค้าปลีกภายในสถานีบริการน้ำมัน จำนวน 58% นอกจากนี้ยังมีรายได้อื่น ๆ จำนวน 3% (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2567) อย่างไรก็ตามในปี 2568 นี้ตั้งเป้ารายได้โตประมาณ 30-40% จากปี 2567 ที่มีรายได้ประมาณ 200 ล้านบาท
