TCL ประกาศแผน 3 ปีชิงตำแหน่งผู้นำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทย พร้อมรับมือความท้าทายจากการแข่งเดือดทั้งแบรนด์ญี่ปุ่น-เกาหลี ปี 68 ตั้งเป้ากวาดยอดขายเครื่องปรับอากาศเพิ่ม 500,000 เครื่อง โต 14% ยันสินค้าปลอดภัย สร้างความมั่นใจผู้บริโภค ล่าสุดเปิดตัวนวัตกรรมเครื่องปรับอากาศ TCL รุ่นใหม่ "FreshIN 3.0 Series" ผสานนวัตกรรม AI สุดล้ำ สั่งงานด้วยเสียง ปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชันอากาศบริสุทธิ์ ตอบโจทย์สุขภาพและชีวิตอัจฉริยะ เตรียมวางจำหน่ายปลายเดือน ม.ค. นี้ ทั่วประเทศ ตั้งเป้าครองแชมป์มาร์เก็ตแชร์ในตลาดเครื่องปรับอากาศ ชูจุดแข็งเทคโนโลยีนำสมัยพร้อมฟังก์ชันเพื่อสุขภาพและมอบประสบการณ์การใช้งานที่เหนือชั้น
นายแกรี่ จ้าว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีซีแอล อิเล็กทรอนิกส์ (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ TCL เปิดเผยว่า จากการที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ เข้าพิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐอเมริกา อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2568 ที่ผ่านมานั้น มองว่าจะเป็นในเรื่องของการกีดกันทางการค้า ซึ่งในภาพรวมมองว่าจะมีผลดีต่อประเทศไทย แต่ก็จะเป็นเรื่องที่รวดเร็วเกินไปที่จะมาสรุป ทั้งนี้บริษัทฯจะต้องปรับแผนอย่างไรนั้น ก็ต้องจับตาดูการดำเนินงานที่ชัดเจนของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ก่อน
สำหรับภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยหากผู้ประกอบการมีการเน้นคุณภาพ ,แบรนด์สินค้า ,ราคาที่เหมาะสม และการรับประกันสินค้าที่ยาวนาน ซึ่งแบรนด์สินค้าจากจีนได้เข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาดแบรนด์สินค้าจากญี่ปุ่นและเกาหลีในประเทศไทยมากขึ้น จากมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 85,000 ล้านบาท โดยในส่วนของ TCL ถือว่าอยู่ในอันดับ 2 ของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยตั้งเป้าภายในระยะเวลา 3 ปีจะเป็นเบอร์ 1 ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า จากปัจจุบันถือว่าเป็นเบอร์ 1 เครื่องปรับอากาศด้านจำนวนสินค้า(ข้อมูลตั้งแต่เดือนกันยายน 2566- พฤศจิกายน 2567) โดยในปี 2567 ซึ่งในปี 2567 ที่ผ่านมาเครื่องปรับอากาศมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 2.2-2.6 ล้านเครื่อง โดย TCL สามารถทำยอดขายได้ 380,000 เครื่อง และปี 2568 ตั้งเป้าไว้ที่ 500,000 เครื่อง ถือว่าเป็นตัวเลขที่มีความท้าทาย จากปี 2567 คิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 14%
ด้านความท้าทายของ TCL ในการแข่งขันกับแบรนด์อื่นในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่จะทำให้ลูกค้าเลือกใช้แบรนด์ของ TCL ในปีนี้นั้น จะมีการแข่งขัน ด้านราคา/คุณภาพ/เทคโนโลยี/พฤติกรรมผู้บริโภค โดยในปีนี้ได้วางวางเป้าหมายในเรื่องของราคาที่เหมาะสม ไม่แพงจนเกินไป แต่ลูกค้าจะได้รับเทคโนโลยีที่ ทันสมัย คุ้มค่าที่สุดกับเงินที่จ่ายไปอย่างแน่นอน อีกอย่างที่เรากำลังเร่งพัฒนาอย่างมากคือความรวดเร็วในการให้บริการของ after service หลังบ้านให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็วขึ้นและมีมาตราฐานที่ดีขึ้นกว่าเดิม
“ยอมรับว่าตลาดเครื่องปรับอากาศนั้นมีการแข่งขันที่สูง แต่เราก็พยายามพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์และรับประกันสินค้าที่ยาวนานขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดเครื่องปรับอากาศที่ 18-20% แม้ว่าภาพรวมตลาดจะโตหรือไม่โตก็ตาม เรามั่นใจว่าจะสามารถกินส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นได้อีกจากการทำกิจกรรมการตลาด”นายแกรี่ กล่าว
สำหรับแผนการเปิดโรงงานในประเทศไทยนั้น แม้ว่าจะเป็นประเทศที่น่าสนใจลงทุน แต่ทั้งนี้นั้นต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของบริษัทแม่ที่ประเทศจีน เพราะการลงทุนสร้างโรงงานผลิตสินค้านั้น ต้องใช้เม็ดเงินในการลงทุนเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะประกาศให้ทราบถึงความชัดเจนได้ในอนาคต
ส่วนกรณีที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค มีเจตนาประกาศคุ้มครองผู้บริโภคเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา ในเรื่องการคุ้มครองจากอุปกรณ์แผ่รังสียูวีซี ในระบบเปิดหรืออุปกรณ์ที่ผู้บริโภคอาจสัมผัส/กระทบรังสียูวีซีได้โดยตรง ซึ่งเครื่องปรับอากาศของบริษัทฯรุ่น T-Pro เป็นระบบปิด และไม่อาจสัมผัสได้โดยตรงจึงไม่เข้าเงื่อนไขคำสั่งดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามทางบริษัทฯต้องการทดสอบเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคทั่วไป จึงได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ฉบับลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เพื่อขอทดสอบหรือพิสูจน์สินค้าของบริษัทฯ ซึ่งจากผลการตรวจสอบพบว่า สินค้าของบริษัทฯไม่มีอันตราย และให้ทำการออกประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
นายแกรี่ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้ TCL ยังคงมุ่งสู่การเป็นผู้นําด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านของไทย รวมทั้งรักษาความเป็นผู้นำส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ของไทย ผู้นำแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มียอดจำหน่ายเครื่องปรับอากาศสูงสุด ทั้งในด้านจำนวนเครื่อง และ มูลค่าการจำหน่ายรวม พร้อมส่งมอบประสบการณ์และการบริการที่เหนือกว่าให้กับกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้จากพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงสู่การให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ การใช้ชีวิตอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวก และความคุ้มค่าอย่างยั่งยืน TCL จึงใส่ใจและให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียดของการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ล่าสุด “TCL FreshIN 3.0 Series” โดยรุ่นนี้ได้รับรางวัลระดับนานาชาติ รางวัลนวัตกรรมเทคโนโลยี Smart Fresh Air ประจำปี 2025 ในฐานะ "รางวัลออสการ์" ของชุมชนเทคโนโลยี ในงาน Consumer Electronics Show (CES 2025) จัดขึ้นที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 7-10 มกราคม 2568 จากเทคโนโลยีชั้นนำที่ให้อากาศบริสุทธิ์ดีต่อสุขภาพและประหยัดพลังงานด้วย AI ซึ่งเปิดตัวประเทศไทยเป็นที่แรก และเป็นที่แรกใน South East Asia
TCL FreshIN 3.0 Series เครื่องปรับอากาศที่มาพร้อมนิยามการทำความเย็นรูปแบบใหม่ ที่ผสมผสานทั้งเทคโนโลยีความสะดวกสบาย ด้วยการสั่งงานด้วยเสียง พร้อมรองรับภาษาไทย โดยไม่ต้องต่อเชื่อมอินเตอร์เน็ต พร้อมการออกแบบดีไซด์แบบ Slim เรียบง่ายเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ด้วยจอแสดงผลแบบใหม่ "Lunar Display" แสดงคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ พร้อมฟังก์ชันอากาศบริสุทธิ์ ช่วยนำเข้าอากาศบริสุทธิ์จากภายนอกเข้าสู่ภายในบ้าน ผ่านระบบกรองอากาศ 4 ขั้นตอน เพื่อเพิ่มระดับออกซิเจนและอากาศบริสุทธิ์ ภายในห้องทำให้อากาศสดชื่นยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟังก์ชัน ระบบประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูงจากเทคโนโลยี AI ปรับอุณหภูมิแบบอัตโนมัติให้เหมาะสมกับการอยู่อาศัย รวมถึงนวัตกรรมคอยล์ร้อนที่มีระบบทำความสะอาดตัวเอง กำจัดฝุ่นและสิ่งสกปรกจากภายในตัวเครื่องด้วยแรงลมกลับทิศทาง ลดการสะสมของสิ่งสกปรก เพื่อสุขอนามัยที่ดี ประหยัดไฟ และยืดระยะเวลาการบำรุงรักษา
เครื่องปรับอากาศ TCL FreshIN 3.0 Series มีให้เลือก 3 ขนาด คือ ขนาด 10,000 บีทียู 12,000 บีทียู และ 19,000 บีทียู โดยจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการผ่านตัวแทนเครื่องปรับอากาศ TCL ทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 เป็นต้นไป ซึ่งลูกค้าที่ซื้อเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ในช่วงเปิดตัวสินค้า (มกราคม และกุมภาพันธ์ 2568) จะได้รับแผ่นกรองอากาศ FreshIN ฟรี เพิ่มอีก 1 ชุด
“ในปีนี้เชื่อว่าตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยจะเติบโตเพิ่มขึ้น จาก นวัตกรรมใหม่ การประหยัดพลังงาน และความสะดวกสบายที่เพิ่มมากขึ้น บริษัท TCL ในฐานะผู้นำแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย มากว่า 20 ปี ยังคงมุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งสู่การเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าพรีเมียมอันดับหนึ่ง ในประเทศไทยต่อไป” นายแกรี่ กล่าวในที่สุด
